เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ (7 ต.ค.) ปรับลดครั้งแรกในรอบ 4 วัน หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงและกำลังผลิตสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกจากแรงหนุนกลุ่มไบโอเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำขยับขึ้น ท่ามกลางความคาดหมายว่าเฟดยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 72 เซ็นต์ ปิดที่ 47.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 59 เซ็นต์ ปิดที่ 51.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันพุธ (7 ต.ค.) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ตุลาคม เพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 1.75 ล้านบาร์เรล
ในขณะเดียวกันรายงานดังกล่าวยังเผยให้เห็นด้วยว่ากำลังผลิตสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 76,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 9.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซ้ำเติมความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (7 ต.ค.) ปิดบวกพอสมควร จากแรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยี แม้มีรายงานผลประกอบการอันน่าผิดหวังจาก ยัม แบรนด์ส บริษัทแม่ของเคเอฟซี รวมถึงอโดเบ ซิสเต็มส์และอื่นๆ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 122.10 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16.912.29 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.91 จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,995.83 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 42.79 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,791.15 จุด
ยัม แบรนด์ส เจ้าของเครือข่ายฟาสต์ฟูด เคเอฟซี และทาโก้ เบลล์ ดิ่งลงถึงร้อยละ 18.8 หลังปรับลดประมาณการณ์รายได้สืบเนื่องจากยอดขายที่ตกต่ำในจีน ส่วนบริษัทซอฟต์แวร์อย่าง อโดบี ลดลงร้อยละ 5.3 หลังคาดหมายว่าจะมีกำไร 2.70 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปี 2016 ต่ำกว่าที่เหล่านักวิเคราะห์กะเก็งกันไว้
อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีทได้แรงหนุนจากเหล่าบริษัทบริษัทเวชภัณฑ์ ในนั้นรวมถึง เมอร์ค ที่ปิดบวกร้อยละ 2.3 แอมเจน ปิดบวกร้อยละ 4.8 และเซลจีน ปิดบวกร้อยละ 4.3 เช่นเดียวกับเหล่าบริษัทไมโครบล็อกรายใหญ่ อย่างทวิตเตอร์ ที่ปิดบวกร้อยละ 8.0 และอาลีบาบา ปิดบวกร้อยละ 3.7
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (7ต.ค.) ขยับขึ้น 4 วันติด ยังคงได้แรงหนุนจากความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ ตามหลังข้อมูลการจ้างงานที่น่าผิดหวัง ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,148.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
