เอเอฟพี – สุลต่านแห่งรัฐ 9 รัฐของมาเลเซียทรงออกถ้อยแถลงร่วมที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักแสดงความกังวลเกี่ยวกับข่าวฉาวคอร์รัปชั่นที่กำลังรุมเร้านายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค และเรียกร้องให้มีการสืบสวนอย่างรวดเร็วและโปร่งใส
ถ้อยแถลงดังกล่าวที่ออกมาเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (6) ก่อนหน้าการประชุมราชวงศ์ประจำปีนาน 2 วันยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อ นาจิบ ซึ่งกำลังเผชิญกับเสียงเรียกร้องให้อธิบายเรื่องเงินจำนวนมหาศาลที่หายไปจากบริษัทของรัฐที่เขาก่อตั้ง รวมถึงเงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ที่ถูกโอนอย่างลับๆ เข้าบัญชีส่วนตัวของเขา
สุลต่านอันเป็นที่เคารพนับถือเหล่านี้ทรงเรียกร้องให้รื้อฟื้นการสืบสวนของทางการที่หยุดไปกลางคันและให้จัดการกับเรื่องนี้อย่างเข้มงวด
“ผลการสืบสวนต้องถูกรายงานอย่างครอบคลุมและโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนเชื่อในความบริสุทธิ์ใจของรัฐบาล ซึ่งจะไม่ปกปิดความจริงหรือข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น” สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการรายงานโดยอ้างจากถ้อยแถลงดังกล่าว
การสืบสวนภายในประเทศถูกระงับโดยสิ้นเชิงนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมหลังจากที่ นาจิบ สั่งปลดอัยการสูงสุดและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตามมีการรายงานว่าหน่วยงานของประเทศอื่นๆ ทั่วโลกอย่างสหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ ก็เปิดฉากการสืบสวนการไหลเวียนของเงินนี้แล้วด้วยเช่นกัน
“ความล้มเหลวในการให้ความกระจ่างและคำตอบเป็นที่เกรงว่าจะส่งผลให้เกิดวิกฤตความเชื่อมั่น” ถ้อยแถลงของสุลต่านระบุ โดยสื่อถึงการที่ค่าเงินริงกิตตกลงอย่างแรงและความโกลาหลของตลาดที่โทษกันว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะข่าวลือดังกล่าว
มาเลเซียซึ่งใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภานั้นมีระบบที่มีเอกลักษณ์ซึ่งสุลต่านชาวมุสลิมทรงทำหน้าเป็นผู้นำทางพิธีกรรมของรัฐ 9 รัฐจากทั้งหมด 13 รัฐของประเทศนี้ และทรงสลับกันเป็นกษัตริย์แต่ในนามของประเทศนี้ในทุกๆ 5 ปี
เหล่าสุลต่านไม่ได้ทรงมีอำนาจอย่างเป็นทางการ ทรงมีส่วนร่วมทางการเมืองนานๆ ครั้ง และถ้อยแถลงของพวกพวกพระองค์ไม่ได้ข้อผูกมัดแต่อย่างใด
ถึงกระนั้นเหล่าราชวงศ์อายุหลายศตวรรษนี้ก็ได้รับความเคารพนับถืออย่างมากในฐานะสัญลักษณ์ของมรดกตกทอดของมาเลเซียที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและผู้อุปถัมภ์ศาสนาอิสลามในประเทศนี้ ดังนั้นถ้อยแถลงดังกล่าวน่าจะเพิ่มแรงกดดันให้กับนาจิบ
พวกพระองค์ได้เปิดการชุมผู้ปกครอง (Conference of Rulers) ประจำปีขึ้นแล้วในวันนี้ (7)
นาจิบ วัย 62 ปีเผชิญกับเสียงเรียกร้องให้ลาออกมากขึ้นเรื่อยๆ จากข้อกล่าวหาที่ว่าเงินจำนวนมหาศาลดังกล่าวถูกถอนออกจากบริษัทเพื่อการพัฒนาของรัฐ (1MDB) และการเปิดเผยเมื่อเดือนกรกฎาคมว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของเขา
รัฐบาลของเขาเรียกเงินก้อนดังกล่าวว่า “เงินบริจาคทางการเมือง” จากตะวันออกกลางแต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งนาจิบและ 1MDB ต่างปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
นักวิเคราะห์ระบุว่า นาจิบ ดูเหมือนไม่มีแนวโน้มที่จะถูกโค่นล้มเนื่องจากเขายังคงมีตำแหน่งที่มั่นคงในพรรครัฐบาล ซึ่งเขาได้ทำให้แข็งแรงยิ่งขึ้นไปอีกในเดือนกรกฎาคมด้วยการปลดสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่เรียกร้องความโปร่งใสในข่าวฉาวนี้