รอยเตอร์ - มาเลเซียจะร้องขอให้บริษัทสื่อสังคมออนไลน์และอินเทอร์เน็ต 3 เจ้า ช่วยควบคุมเนื้อหาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อความปลอดภัยสาธารณะ รัฐมนตรีกระทรวงสื่อสาร กล่าวในวันนี้ (17 ส.ค.)
การร้องขอดังกล่าวเป็นความพยายามล่าสุดโดยรัฐบาลมาเลเซียเพื่อปราบปรามผู้แข็งขืน หลังจากที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ตกเป็นข่าวฉาวเรื่องหนี้ก้อนใหญ่ของกองทุนเพื่อการพัฒนาของรัฐ หรือ 1MDB
คณะกรรมการการสื่อสารและมัลติมีเดียของมาเลเซียจะพบกับบริษัทเฟซบุ๊ก, กูเกิล และทวิตเตอร์ “ในเร็วๆ นี้ เพื่อขอความร่วมมือจากพวกเขาในการยับยั้งกระแสข้อมูลเท็จและข่าวลือที่มากขึ้นเรื่อยๆ” ซาเลห์ ซาอิด เกรึค เขียนในบล็อกของเขา
“ภาวะแวดล้อมในอินเทอร์เน็ตไม่ใช่พื้นที่ไร้ขื่อแป และการดำเนินการต่อผู้ใดก็ตามที่พบว่าฝ่าฝืนกฎหมายนั้นสามารถกระทำได้ รวมถึงในพื้นที่อินเทอร์เน็ต” เขากล่าวเสริม โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
นาจิบ วัย 62 ปี กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันนับตั้งแต่ที่มีรายงานออกมาว่า เงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของเขา รอยเตอร์ไม่ได้พิสูจน์ยืนยันความถูกต้องของรายงานดังกล่าว
นาจิบ ปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำอะไรผิดและหน่วยงานต่อต้านคอร์รัปชันที่สืบสวนเรื่องเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีของเขาระบุว่า เงินก้อนดังกล่าวเป็น “เงินบริจาค” ไม่ได้มาจาก 1MDB
ทางการกำลังสืบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการติดสินบนและการบริหารจัดการด้านการเงินที่ผิดพลาดของ 1MDB กองทุนซึ่งมีหนี้กว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ และมี นาจิบ นั่งเก้าอี้ประธานบอร์ดที่ปรึกษา
เมื่อเดือนที่แล้วนาจิบได้ปลดรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคนอื่น ๆ หลังจากที่พวกเขาตั้งข้อสงสัยตัวเขาต่อหน้าสาธารณะเกี่ยวกับเรื่อง 1MDB รัฐบาลได้สั่งปิดสำนักพิมพ์ 2 แห่ง และเว็บไซต์เว็บหนึ่งที่รายงานเกี่ยวกับ 1MDB อย่างเจาะลึก
แมนดีป ซิงห์ คาร์พัล นักเคลื่อนหนุนประชาธิปไตย กล่าวว่า รัฐบาลกำลังพยายามควบคุมเสรีภาพในการแสดงออกด้วยการคุมเข้มสื่อสังคมออนไลน์ที่ซึ่งชาวมาเลเซียจำนวนมากใช้แสดงมุมมองทางการเมือง โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว
“พวกเขากำลังสิ่งนี้เพื่อสร้างบรรยากาศความกลัว” คาร์พัล รักษาการผู้จัดการของกลุ่มหนุนประชาธิปไตย “เบอร์ลิช” ที่กำลังจัดการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลในกรุงกัวลาลัมเปอร์ในเดือนนี้ กล่าว
โฆษกของกูเกิลในกรุงกัวลาลัมเปอร์กล่าวทางบริษัทพูดคุยกับคณะกรรมการสื่อสารและมัลติมีเดียของมาเลเซียอยู่ตลอดเวลา แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำร้องจากรัฐบาลเรื่องการควบคุมเนื้อหา ขณะที่เฟสบุ๊คและทวิตเตอร์ยังไม่สามารถติดต่อขอความคิดเห็นได้ในตอนนี้
