เอเอฟพี - รัฐมนตรีสิงคโปร์โพสต์เฟซบุ๊กประณามข้อแก้ตัว “ที่น่าตกตะลึง” ของเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย ซึ่งพูดในทำนองให้ประเทศเพื่อนบ้าน "สำนึกบุญคุณ" ที่มีอากาศบริสุทธิ์หายใจเกือบตลอดทั้งปี ขณะที่ค่ามลพิษในสิงคโปร์พุ่งสูงถึงระดับอันตรายจนทางการต้องสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศ และเร่งแจกจ่ายหน้ากากอนามัยแก่ประชาชนเป็นการด่วนวันนี้ (25 ก.ย.)
เป็นเวลานานเกือบ 3 สัปดาห์แล้วที่เกาะสิงคโปร์ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันจากการเผาป่าบนเกาะสุมาตรา โดยวิกฤตเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงที่เกษตรกรอินโดนีเซียทำการแผ้วถางและเผาที่ดินเพื่อเตรียมเพาะปลูกใหม่
อย่างไรก็ดี สถานการณ์หมอกควันในสิงคโปร์เวลานี้เข้าขั้นเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2013 เป็นต้นมา
หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ส ระบุว่า ค่าดัชนีมาตรฐานมลภาวะทางอากาศ (PSI) ในสิงคโปร์พุ่งสูงกว่า 300 ซึ่งเข้าขั้น "อันตราย” ต่อสุขภาพของประชาชน ส่งผลให้ต้องมีการสั่งปิดสถานศึกษาระดับประถม-มัธยม และโรงเรียนอนุบาลของรัฐทั่วประเทศ ซึ่งมาตรการเช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อน
ในขณะที่ค่ามลพิษพุ่งสูงขึ้น ความเกรี้ยวโกรธของชาวสิงคโปร์ก็เพิ่มขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว ล่าสุด รัฐมนตรีต่างประเทศ เค. ชานมูกัม ได้ออกมาวิจารณ์นักการเมืองระดับสูงของจาการ์ตาบางคนที่พูดในทำนองว่า ปัญหามลภาวะซึ่งบั่นทอนความสัมพันธ์อินโดนีเซียกับเพื่อนบ้านหลายประเทศ ไม่ใช่เรื่องใหญ่
แม้รัฐบาลอินโดนีเซียจะยืนยันว่ากำลังใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดจัดการปัญหาการเผาป่า “แต่ขณะเดียวกัน เราก็ได้ยินถ้อยคำที่น่าตกตะลึงจากเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของอินโดนีเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่ได้ใส่ใจสวัสดิภาพพลเมืองของเราและของเขาเองเลยแม้แต่น้อย” ชานมูกัม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เมื่อค่ำวันพฤหัสบดี (24)
“คนเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลใช้ถ้อยคำที่แสดงถึงความไม่ใส่ใจประชาชนทั้งของเราและของเขาเช่นนี้ได้อย่างไร โดยไม่รู้สึกละอายหรือมีความรับผิดชอบบ้าง”
แม้ ชานมูกัม จะไม่เอ่ยพาดพิงใคร ทว่าในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้มีกระแสต่อว่ารองประธานาธิบดี ยูซุฟ คัลลา ของอินโดนีเซีย ซึ่งออกมาย้ำคำพูดที่ตนเคยกล่าวไว้ในเดือนมีนาคมว่า ประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายควรจะ “สำนึกบุญคุณ” อินโดนีเซียที่ทำให้พวกเขามีอากาศบริสุทธิ์ไว้หายใจเกือบตลอดทั้งปี
“พวกเขาได้รับอากาศบริสุทธิ์จากอินโดนีเซียไปนานถึง 11 เดือน แต่ไม่เห็นขอบคุณเราสักครั้ง”
อารี ดวีปายานา โฆษกประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ แต่วิงวอนให้ประเทศเพื่อนบ้านเล็งเห็นถึงความพยายามของกรุงจาการ์ตาที่จะควบคุมการเผาป่า
“ท่านประธานาธิบดีได้รวบรวมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพื่อจัดการปัญหานี้ เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสกัดไฟป่า ทั้งโดยการส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดน้ำ และปรับสภาพอากาศ” ดวีปายานา ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“ท่านยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบด้วยตนเอง ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน”
นายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์ สั่งให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งเปิดทำการตามปกติในวันนี้ (25) และให้ศูนย์กลางชุมชนทั่วประเทศแจกจ่ายหน้ากากอนามัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
สถานการณ์หมอกควันในสิงคโปร์วันนี้ (25) เริ่มดีขึ้นบ้างเล็กน้อย โดยค่ามลพิษลดจากระดับ “อันตราย” ลงมาอยู่ในขั้น “ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง” ช่วงปลายๆ
นายกฯ ลี ระบุว่า รัฐบาลสิงคโปร์ได้เสนอที่จะช่วยทางการอินโดนีเซียดับไฟป่า “และขอให้กรุงจาการ์ตาเปิดเผยรายชื่อบริษัทที่มีส่วนก่อวิกฤตหมอกควัน” หลังทางการอินโดนีเซียอ้างว่า มีบริษัทในสิงคโปร์พัวพันกับการเผาพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อเตรียมการเพาะปลูกในช่วงฤดูร้อน
ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ยืนยันจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับบริษัทและกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการเผาป่า ซึ่งก่อให้เกิดวิกฤตมลพิษขึ้นทุกปี
ทหารและตำรวจราว 3,000 นายถูกส่งไปยังเกาะสุมาตราเพื่อดับไฟป่า โดยทางการอิเหนาคาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
เอกา ดับเบิลยู. สุคีรี โฆษกกระทรวงสิ่งแวดล้อมอินโดนีเซีย ระบุว่า เครื่องบิน 25 ลำถูกส่งเข้าไปทิ้งระเบิดน้ำ และโปรยสารเคมีก่อเมฆฝนเพื่อยับยั้งการลุกลามของไฟป่า