เอเอฟพี - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยืนยันว่าหนทางเดียวที่จะยุติสงครามนองเลือดในซีเรียได้คือต้องช่วยรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย ตัวอย่างบทสัมภาษณ์ผู้นำรัสเซียซึ่งเผยแพร่วานนี้ (24 ก.ย.) ระบุ
ระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ปูตินได้ย้ำแนวคิดเดิมของตนที่ว่า ชาวซีเรียเท่านั้นที่จะมีสิทธ์ตัดสินว่าควรจะหาใครมาเป็นผู้นำประเทศแทนอัสซาดหรือไม่ และเมื่อไหร่
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ และ ปูติน มีกำหนดหารือนอกรอบระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในสัปดาห์หน้า แต่ท่าทีล่าสุดของผู้นำรัสเซียแสดงให้เห็นถึงช่องว่างทางความคิดที่ห่างกันสุดกู่ระหว่างผู้นำมหาอำนาจทั้งสอง
รัฐบาลวอชิงตันยืนกรานว่า ความขัดแย้งในซีเรียเกิดจากอัสซาดกดขี่ข่มเหงพลเมืองของตน และสงครามที่ปะทุขึ้นก็เป็นโอกาสให้กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ขยายอิทธิพลอย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ดี มอสโกแย้งว่าภัยคุกคามจากนักรบญิฮาดเริ่มต้นจากการที่สหรัฐฯ ส่งทหารบุกอิรักในปี 2003 และการที่นาโตใช้ปฏิบัติการทางอากาศช่วยเหลือกบฏลิเบียให้สามารถโค่นรัฐบาล พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ลงได้เมื่อปี 2011
รัสเซียได้ส่งเครื่องบินโจมตีหลายสิบลำ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์และยานเกราะไปประจำการที่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งในเมืองท่าลาตาเกียของซีเรีย
ชาร์ลี โรส พิธีกรของซีบีเอส ได้ตั้งคำถามกับ ปูติน ว่าการที่มอสโกลงมือแทรกแซงทางทหารในซีเรียนั้นมีเป้าหมายเพื่อ “ช่วยชีวิต” อัสซาด ใช่หรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบจากผู้นำรัสเซียตรงๆ ว่า “ใช่ คุณพูดถูกแล้ว”
“และผมเชื่อแน่ว่า หากเราทำในสิ่งตรงกันข้าม คือโค่นล้มรัฐบาลที่มีอำนาจชอบธรรมอยู่ จะยิ่งก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างที่คุณได้เห็นมาแล้วในประเทศอื่นๆ แถบนั้น เช่น ลิเบีย ซึ่งสถาบันต่างๆ ของรัฐถูกทำลายจนย่อยยับ”
“สถานการณ์ในอิรักตอนนี้ก็ไม่แตกต่างกัน” ปูตินเสริม
“ไม่มีวิธีอื่นใดที่จะแก้วิกฤตในซีเรียได้ นอกจากช่วยส่งเสริมโครงสร้างรัฐให้มีความเข้มแข็ง และช่วยพวกเขาต่อสู้กับลัทธิก่อการร้าย ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนให้มีการเปิดเจรจากับกลุ่มฝ่ายค้านที่มีเหตุมีผล และร่วมมือปฏิรูปประเทศไปด้วยกัน”
บทสัมภาษณ์ตัวเต็มของปูติน จะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสในวันอาทิตย์นี้ (27)