“บิ๊กตู่” เตรียมบินเข้าอเมริกา ร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น 23 - 30 ก.ย. นี้ ยัน “คตร.” ถูกร้องเรียน ไม่เป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุน เพียงเข้ามาเร่งรัดและติดตามการทำงานเท่านั้น สั่งแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับหมอกควันรอบใหม่ อย่าประมาทน้ำแล้ง แม้มีระดับน้ำสะสมจ่อปกติ
วันนี้ (1 ก.ย.) พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภ และสั่งการต่อที่ประชุม โดยได้เน้นย้ำต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เร่งรัดดำเนินการทุกอย่างให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายที่สั่งการไปก็ขอให้มีการเร่งการดำเนินการโดยเร็ว พร้อมแจ้งที่ประชุม ว่า ในระหว่างวันที่ 23 - 30 กันยายน 2558 นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
จากนั้นได้มีการหารือถึงข้อห่วงใยในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสื่อมวลชน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตาม road map ที่กำหนดไว้ ส่วนกรณีที่มีการกล่าวถึงคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและกังวลว่าจะเป็นรัฐซ้อนรัฐ หรือจะให้มีการเอื้อประโยชน์ต่าง ๆ นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะข้อกำหนดหรือกติกาที่กำหนดไว้ในลักษณะการทำงานของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ มีอยู่ชัดเจนว่า อำนาจพิเศษของคณะกรรมการดังกล่าวจะใช้ได้เฉพาะในยามวิกฤตเท่านั้น
เช่นเดียวกับลักษณะของมาตรา 44 จะใช้แก้ปัญหาในกรณีที่กลไกปกติ หรือกฎหมายปกติ รวมถึงพระราชกำหนด หรือพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือกฎอัยการศึก ใช้ไม่ได้ โดยที่ผ่านมาเราก็จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ซึ่งอำนาจพิเศษของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ฯ ก็จะเป็นการใช้ในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งการจะใช้อำนาจดังกล่าวจะต้องมีการปรึกษากับประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งตรงนี้มีข้อกำหนดในการใช้อำนาจที่ชัดเจน และมีกติกาอย่างรัดกุม เพราะฉะนั้นจึงขอให้สังคมมั่นใจและสบายใจว่าอำนาจพิเศษตรงนี้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ชุดนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ และจะทำให้สามารถขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้ โดยคณะกรรมการมีระยะเวลา 5 ปี เท่านั้น และยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการสืบทอดอำนาจต่าง ๆ แต่อย่างใด
ส่วนกรณีข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่อบทบาทของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุนที่กำหนดภายใต้งบประมาณ 50 ล้านบาท นั้น ขอชี้แจงทำความเข้าใจว่า บทบาทของ คตร. ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของการเข้าไปตรวจสอบ แต่เป็นการเร่งรัดและติดตามการทำงาน โดยเมื่อมีโครงการลงทุนภายใต้งบ 50 ล้านบาท โครงการนั้นไม่จำเป็นต้องมานำเสนอเพื่อให้ได้รับความเห็นชอบจาก คตร. แต่สามารถดำเนินการได้ทันที และมีหน้าที่รายงานความก้าวหน้าของโครงการว่าดำเนินการอย่างไร มีความคืบหน้ามากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตาม คตร. จะมีบทบาทมีก็ต่อเมื่อมีผู้ร้องเรียนเข้ามาว่าโครงการดังกล่าวมีลักษณะของความไม่น่าไว้ว่างใจ ซึ่ง คตร. ก็จะได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงให้กับ คตร. ได้รับทราบ และมีการเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ยืนยันการดำเนินงานของ คตร. ไม่ได้เป็นการเข้าไปแทรกแซง หรือเป็นการสร้างอุปสรรคในการลงทุนแต่อย่างใด แต่ตรงกันข้ามกลับเป็นการช่วยให้การลงทุนหรือการใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างเรียบร้อย สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พร้อมทั้ง นายกรฐมนตรี ได้เน้นย้ำต่อที่ประชุมในเรื่องการดูแลแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับหมอกควัน เพราะประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากหมอกควันภายในประเทศและที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องขอความร่วมมือในการดูแลเรื่องดังกล่าว ขณะที่ประเทศไทยก็ต้องดูแลรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นภายในประเทศของเราเองด้วย ดังนั้น จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในเรื่องสถานการณ์น้ำถึงแม้ปัจจุบันจะมีฝนตกลงมาแล้วในหลายพื้นที่ของประเทศไทยแต่น้ำที่ไหลเข้าอ่างยังลดจากช่วงสัปดาห์ก่อนถึง 43% รวมทั้งขณะนี้ปริมาณน้ำที่สะสมก็ยังมีระดับต่ำกว่าปกติ จึงขอให้ทุกคนยังต้องตระหนักและระมัดระวังในเรื่องของปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้ตัวเลขปริมาณน้ำล่าสุดในเขื่อนหลักหลายเขื่อน ปรากฏว่า เขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำใช้ได้เพียง 41 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 2% ขณะที่เขื่อนคลองสียัด มีน้ำใช้ได้ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นน้ำใช้ได้ 4% เขื่อนบางพระ มีน้ำใช้ได้ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้ได้เพียง 2% ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงทำให้ทุกฝ่ายยังต้องให้ความสำคัญและระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้น้ำ และมีการวางแผนบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีประสิทธิภาพ