ผู้บัญชาการทหารสูงสุดนำประชุมเหล่าทัพส่งท้ายบิ๊กเกษียณอายุ “ธีรชัย-จักรทิพย์” เข้าแทน ผบ. ชูภาพรวมเรียบร้อย สร้างกองทัพเป็นปึกแผ่น พัฒนาสู่ระบบเครือข่าย กำลังทำโรดแมป 20 ปีกองทัพ โวมีความสุขมาก ไม่มีข้อขัดแย้ง เผย คสช.ยังไม่นัดคัดกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ บอกตอนนี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยมี พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และว่าที่ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ โดยการประชุมครั้งนี้มีก่อนที่ผู้บังคับบัญชาในระดับสูงจะเกษียณอายุราชการในหลายตำแหน่ง
จากนั้น พล.อ.วรพงษ์เปิดเผยว่า ภาพรวมการทำงานของเหล่าทัพถือว่าเรียบร้อย สามารถปฏิบัติภารกิจต่างๆ ตามขอบเขตความรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี ตลอดจนงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ผลงานที่ผ่านมาและเป็นรูปธรรม คือเราได้สร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับกองทัพอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้จะมีการพัฒนากองทัพไปสู่ระบบเครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network centric operation) หลังจากมีการทดสอบระบบแล้วมีผลเป็นที่น่าพอใจ โดยจะมีการรวบรวม ค้นหา พิสูจน์ฝ่าย แหล่งข่าวต่างๆ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว การตัดสินใจที่ดีขึ้น ตลอดจนถึงการส่งไปดำเนินการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว แบบบูรณาการและใช้เครื่องมีอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วย
พล.อ.วรพงษ์กล่าวว่า โดยได้ทดสอบไปแล้วใน 3 ระบบ คือ ระบบการป้องกันชายแดน ระบบการป้องกันการปฏิบัติการทางอากาศ และระบบแก้ไขปัญหาบรรเทาสาธารณภัยช่วยเหลือประชาชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพในภาพรวม ส่วนเรื่องการฝึกศึกษาของกำลังพล การบริหารจัดการได้จัดทำแผนรองรับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ได้ให้ไว้ ในส่วนของกองทัพไทยได้วางแผนรองรับยุทธศาสตร์ของกระทรวงกลาโหม 5 ปี 10 ปี และ 20 ปี ขณะนี้เราได้ทำโรดแมปในการพัฒนากองทัพในช่วง 20 ปีให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นกรอบให้กับเหล่าทัพได้พัฒนากองทัพตัวเองให้สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปยังผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่ตลอดจนถึงเหล่าทัพ ได้นำแผนพัฒนากองทัพที่ได้จัดทำไว้มาเป็นแนวทางการทำงาน พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์
“ผมมีความสุขมากในการทำงานร่วมกับเหล่าทัพและ สตช. เพราะเราทำงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สามัคคีกลมเกลียว ไม่มีข้อขัดแย้ง การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่นภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ ร่วมกับกระทรวงกลาโหม รัฐบาล และถือเป็นปีที่ได้รวมงานกับส่วนราชการ พลเรือน มากที่สุด เพราะสวมหมวกอยู่หลายใบ ทั้งในนาม คสช. รัฐบาล สนช. ซึ่งทุกอย่างได้รับความร่วมมือและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร” พล.อ.วรพงษ์กล่าว
พล.อ.วรพงษ์กล่าวปฏิเสธว่ายังไม่ได้รับการนัดหมายจาก คสช.เพื่อประชุมคัดเลือก 21 บุคคลที่จะเข้ามานั่งในคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่ ตลอดจนในที่ประชุมวันนี้ไม่ได้มีการประเมินสถานการณ์ภายหลังมีการถอดยศนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มองว่าขณะนี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ทุกอย่างเป็นไปตามนโยบายและมีความเรียบร้อยดี อย่างไรก็ตาม กองทัพถือเป็นส่วนราชการของรัฐบาล ก็ต้องให้การสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ทั้งในบทบาทของกองทัพ และบทบาทของข้าราชการที่ไปทำงานอยู่ในส่วนต่างๆ อย่างเช่น ผู้บัญชาการทหารเรือ มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายหรือไอยูยู ส่วนผู้บัญชาการทหารอากาศ รับผิดชอบการแกไขปัญหาการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบเรื่องการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ผู้บัญชาการทหารบก ดูแล คสช. ถือว่ากองทัพสนับสนุนงานของรัฐบาลได้ทั้งทางตรงทางอ้อม ไม่มีปัญหา