รอยเตอร์ - ทางการซาอุดีอาระเบียระบุว่า มีผู้แสวงบุญเสียชีวิตอย่างน้อย 453 รายในวันพฤหัสบดี (24 ก.ย.) จากการเหยียบกันตายที่ทุ่งมินา บริเวณนอกเมืองเมกกะ ที่มีคนราว 2 ล้านคนไปร่วมพิธีฮัจญ์
มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 719 รายจากเหตุการณ์คราวนี้ที่เกิดขึ้นบนถนนสาย 204 บริเวณทุ่งมินา ห่างจากเมืองเมกกะไปทางตะวันออกเพียงแค่ไม่กี่กิโลเมตร
พิธีฮัจญ์ พิธีสำคัญทางศาสนาที่มีผู้คนมารวมตัวกันมากที่สุดในโลกและจัดเป็นประจำทุกปี ได้เคยประสบกับเหตุร้ายรุนแรงแบบนี้มาแล้วในอดีต ทั้งเหยียบกันตาย ไฟไหม้ และจลาจล
ความปลอดภัยในช่วงพิธีฮัจญ์ถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวทางการเมืองต่อผู้ปกครองประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างราชวงศ์ “อัล ซาอุด” ที่นำเสนอตนเองต่อนานาชาติว่าเป็นผู้ปกป้องศาสนาอิสลาม รวมถึงเป็นผู้คอยดูแลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเมกกะและเมดินา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลซาอุฯ ได้ใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปกับการปรับปรุงและขยายโครงสร้างพื้นฐานสำหรับพิธีฮัจญ์ รวมถึงเทคโนโลยีในการควบคุมฝูงชน หลังเกิดเหตุผู้แสวงบุญเหยียบกันตาย 346 รายในปี 2006
ถนนสาย 204 คือ 1 ใน 2 เส้นทางหลักที่ตัดผ่านมินาไปสู่สะพานทางเดินจามารัต ที่นั่นเหล่าผู้แสวงบุญจะไปร่วมพิธีขับไล่ปีศาจ ด้วยการขว้างก้อนกรวดเข้าใส่เสาหินขนาดใหญ่ 3 ต้นที่เป็นตัวแทนของซาตาน นอกจากนี้จามารัตยังเป็นสถานที่เกิดเหตุเหยียบกันตายเมื่อปี 2006 อีกด้วย
ทางการซาอุฯ ระบุว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นตอนที่มีผู้แสวงบุญกลุ่มใหญ่ 2 กลุ่มเดินสวนทางมาเจอกัน ทำให้เกิดการเบียดเสียดแล้วเหยียบกันตายในที่สุด
ผู้แสวงบุญชาวอาหรับรายหนึ่งที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ได้บอกว่า เขาหวังที่จะไปร่วมพิธีปาหินหลังช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี แต่ตอนนี้เขากลัวจนไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำแล้ว
“ผมเหนื่อยมากแล้ว พอหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้มันก็ทำให้ผมไปไม่ได้ ผมคงจะรอดูจนถึงตอนกลางคืน ถ้าหากเรื่องนี้ยังไม่คลี่คลาย ผมคงหาคนอื่นให้ไปทำแทนผม” เขากล่าว
นักข่าวของรอยเตอร์ที่อยู่ในอีกพื้นที่ของมินา ได้รายงานว่า พวกเขาได้ยินเสียงไซเรนตำรวจและรถพยาบาล แต่ถนนที่มุ่งไปสู่จุดเกิดเหตุนั้นถูกปิดกั้น
บรรดาภาพถ่ายที่มีการเผยแพร่กันทางทวิตเตอร์ของหน่วยงานป้องกันพลเรือนของซาอุฯ ได้แสดงให้เห็นว่ามีผู้แสวงบุญจำนวนมากนอนกันอยู่บนเปลหาม โดยมีเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินกำลังนำตัวพวกเขาขึ้นรถพยาบาล
มีการระบุทางทวิตเตอร์ดังกล่าวว่า มีรถพยาบาลมากกว่า 220 คัน กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยราว 4,000 คน ถูกส่งไปยังบริเวณจุดที่เกิดเหตุเหยียบกันตาย เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ อัล-อาราบีญา ของรัฐบาลซาอุฯ ได้แพร่ภาพขบวนรถพยาบาลที่กำลังขับมุ่งหน้าไปยังบริเวณทุ่งมินา
“กำลังดำเนินการแยกกลุ่มฝูงชนจำนวนมาก เพื่อนำผู้แสวงบุญไปยังเส้นทางอื่น” หน่วยงานป้องกันพลเรือนซาอุฯ ระบุในข้อความทางทวิตเตอร์
ความพยายามที่จะยกระดับความปลอดภัยที่จามารัตนั้นได้รวมถึงการเพิ่มขนาดของเสาหินทั้งสามให้ใหญ่ขึ้น รวมถึงก่อสร้างสะพาน 3 ชั้นขึ้นล้อมรอบเสาหิน เพื่อเพิ่มพื้นที่และทางเข้าออกแก่ผู้แสวงบุญที่มาร่วมพิธี
ในพิธีฮัจญ์ปีนี้ ตำรวจกว่า 100,000 นาย พร้อมด้วยกล้องวิดีโอหลายพันตัว ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อให้ฝูงชนกระจายตัวออกไปก่อนที่จะแออัดยัดเยียดกันจนถึงระดับอันตราย
“เหล่าผู้แสวงบุญขอได้โปรดอย่าผลักกัน กรุณาอย่าขวางทางออกและอย่าเดินกลับเข้ามาในเส้นทางเดิม” เจ้าหน้าที่ประกาศผ่านลำโพงซ้ำไปซ้ำมาที่จามารัต
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน มีผู้เสียชีวิต 110 รายที่แกรนด์มัสยิดของเมืองเมกกะ จากเหตุการณ์เครนก่อสร้างพังถล่มลงมาทับผู้คนจมดิน
