xs
xsm
sm
md
lg

ทนายทหารหนีทัพ “โบ เบิร์กดาห์ล” ขอเพนตากอนเปิดแฟ้มคดีต่อสาธารณะ หลังหัวหน้าทีมสอบกองทัพสหรัฐฯชี้ “ไม่ควรสั่งขัง GI”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์- ทนายความประจำตัว สิบเอกโบ เบิร์กดาห์ล ทหารสหรัฐฯที่หนีทหารในอัฟกานิสถานจนต้องตกเป็นเชลยของกลุ่มตอลีบานนานเกือบ 5 ปี ได้ยื่นเรื่องเมื่อวานนี้(21) เพื่อร้องขอให้มีการเปิดเผยเอกสารกองทัพสหรัฐฯในคดีนี้ต่อสาธารณะเพื่อความกระจ่าง หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา พลตรี เคนเนธ ดาห์ล ( Kenneth Dahl) หัวหน้าคณะสอบเบื้องต้นกองทัพสหรัฐฯไม่เห็นด้วยในการลงโทษจำคุกเบิร์กดาห์ล

รอยเตอร์รายงานวันนี้(22)ว่า หลังจากที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พลตรี เคนเนธ ดาห์ล ( Kenneth Dahl) หัวหน้าคณะสอบเบื้องต้นคดีหนีทหารของ สิบเอกโบ เบิร์กดาห์ล จากฐานทัพซานอันโตนิโอ รัฐเทกซัส ได้ให้คว่ามเห็นว่า “ไม่คิดว่าเบิร์กดาห์ลสมควรได้รับการลงโทษด้วยการถูกสั่งขังจากพฤติกรรมที่เขาได้ก่อขึ้น”

ทั้งนี้ทีมทนายความของโบ เบิร์กดาห์ลได้แถลงผ่านหนังสือยื่นเรื่องในวันจันทร์(21)ว่า “เอกสารประเภทนี้ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในชั้นความลับ เพราะถูกแจกจ่ายวนเวียนอยู่ในระหว่างการไต่สวนที่เปิดที่มีปรากฎของกลุ่มผู้เข้าร่วมรับฟัง”

นอกจากนี้ ทางทีมทนายความฝ่ายจำเลยยังระบุต่อไปว่า เป็นเพราะเบิร์กดาห์ลในแง่ต่อสาธารณะนั้นถูกเอ่ยถึงจากทั้งสื่อมวลชนสหรัฐฯ และนักการเมืองอเมริกา ล้วนเป็นภาพเชิงลบทั้งสิ้น ดังนั้นการเปิดเผยเอกสารสำคัญทั้งหมดทางคดีของกองทัพเหล่านี้ รวมไปถึงเอกสารข้อมูลที่มีความหนาร่วม 371 หน้าเกี่ยวกับให้ปากคำจากสิบเอก โบ เบิร์กดาห์ล เสนอต่อคนภายนอก จะช่วยสร้างความกระจ่างในสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานั้นได้

ด้านคณะอัยการสอบสวนกองทัพสหรัฐฯออกแถลงในช่วงค่ำวันที่ 2 ของการไต่สวนสรุปว่า เบิร์กดาห์ล “จงใจหลบหนี” ออกไปนอกฐานทัพ และผลจากการกระทำส่งผลต่อปฎิบัติการทางทหารสหรัฐฯในอัฟกานิสถานต้องถูกปรับเปลี่ยนใหม่ และยังสรุปต่อว่า สิบเอกเบิร์กดาห์ลสมควรต้องรับผิดชอบต่อจากสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไป

รอยเตอร์รายงานว่า ชั้นไต่สวนเบื้องต้นคดีเบิร์กดาห์ลที่ค่ายฟอร์ต แซม ฮูสตัน (Fort Sam Houston)ในเมืองซาน อันโตนิโอนั้น มีขึ้นเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในขณะนั้นเพื่อนำไปสู่การตัดสินว่า สิบเอกโบ เบิร์กดาห์ล วัย 29 ปี นั้นต้องถูกส่งขึ้นศาลทหารเพื่อรับการลงโทษในการหนีทหารของเขาหรือไม่

CNN สื่อสหรัฐฯรายงานในวันที่ 18 กันยายนล่าสุดว่า พลตรี เคนเนธ ดาห์ลได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า เขาได้สอบปากคำเบิร์กดาห์ลด้วยตนเองเป็นเวลานานถึง 1 วันครึ่ง แต่ทว่ากลับไม่พบหลักฐานใดที่จะบ่งชี้ได้ว่าสิบเอกวัย 29 ปีผู้นี้ถูกจัดอยู่ใน “พวกสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มตอลีบาน” เหมือนอย่างที่เข้าใจ

แต่สิ่งที่เบิรฺกดาห์ลได้ตัดสินใจทำลงไป เพราะต้องการประท้วงผู้บังคับบัญชาหน่วยสังกัดถึงการขาดความเป็นผู้นำ

ทั้งนี้หัวหน้าคณะสอบสวนกองทัพสหรัฐฯได้ให้ข้อมูลในส่วนของเบิร์กดาห์ลเพิ่มเติมว่า เบิร์กดาห์ลวางแผนเพื่อเข้าหาผู้บังคับบัญชาในระดับที่สูงขึ้นไปโดยการละทิ้งจุดสอดแนมประจำที่ได้รับมอบหมาย และเดินทางไปยังฐานทัพสหรัฐฯที่ตั้งอยู่ใกล้ระยะทางราว 23 กม.เพื่อสร้างความโกลาหล และตัวเขาที่มียศเพียงแค่สิบเอกจะสามารถเข้าถึงตัวนายทหารชั้นยศระดับสูงเพื่อร้องเรียนได้

และพลตรี ดาห์ล ยังกล่าวให้ความเห็นถึงคดีนี้ว่า เขาไม่คิดว่า ปลายทางของคดีเบิร์กดาห์ลนี้จะต้องจบลงด้วยการพิพากษาลงโทษจำคุก

ซึ่งสื่อสหรัฐฯชี้ว่า หากในชั้นสอบสวนเบื้องต้นตัดสินว่า คดีของเบิร์กดาห์ลมีมูล และยื่นฟ้องไปยังศาลทหาร และหากเขาถูกพิพากษามีความผิด เบิร์กดาห์ลอาจถึงขั้นได้รับโทษในอัตราสูงสุด จำคุกตลอดชีวิตได้

เบิร์กดาห์ลหนีทหารในปี 2009 และถูกกลุ่มติดอาวุธตอลิบานจับกุมตัวไว้เป็นเวลาเกือบ 5 ปี จนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวออกมาเป็นอิสระในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ที่ใช้มาตรการเงื่อนไขแลกตัวนักโทษจำนวน 5 คนจากคุกกวนตานาโม และเบิร์กดาห์ลจนทำให้เขาสามารถกลับคืนสู่สหรัฐฯได้อีกครั้ง

แต่อย่างไรก็ตาม ความเห็นของหัวหน้าคณะสอบสวนกองทัพสหรัฐฯชุดนี้ระบุว่า “เบิร์กดาห์ลเป็นคนฉลาดมากและเป็นนักอ่านตัวยง” ซึ่งจากประวัติของสิบเอกผู้นี้ที่เติบโตขึ้นในเขตที่อยู่ห่างไกลในรัฐการเกษตรสหรัฐฯไอดาโฮ และได้รับการศึกษาแบบ “โฮมสกูล” หรือผู้ปกครองเป็นผู้สอนให้ความรู้เอง ทำให้เขามีโอกาสอ่านหนังสือจำนวนมาก และนำตัวเองเข้าไปสู่สิ่งที่อยู่ในหนังสือเหล่านั้นจนทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของทัศนคติและบุคลิกแบบอุดมคติไป และไม่สามารถตัดสินผู้อื่น หรือสิ่งอื่นได้จากความเป็นจริง






กำลังโหลดความคิดเห็น