xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : ตอลีบานปากีฯอ้างความรับผิดชอบ หลัง 6 นักรบญิฮัดควบมอร์เตอร์ไซด์ 3 คัน บุกกราดยิงรถเมล์นอกการาจี ชนกลุ่มน้อยชีอะห์ดับ 43 เจ็บสาหัสอื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอพี /เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – วันนี้(13) กลุ่มก่อการร้าย 6 คนที่มาพร้อมกับมอร์เตอร์ไซด์ 3 คันกราดยิงด้วยปืนพกขนาด 9 มม. รถโดยสารสาธารณะคันหนึ่งในเมืองการาจี แคว้นสินธ์ ทางใต้ของปากีสถาน เส้นทางมุ่งหน้าไปยัง ศูนย์กลางชุมชนกลุ่มน้อยมุสลิมชีอะห์สังกัดกลุ่มอิสไมลีส (Ismaili Shiite Muslims) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 43 คน รวมไปถึงผู้หญิง 16 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 13 คน ซึ่งผู้โดยสารทั้งหมดบนรถคันนี้เป็นชนกลุ่มน้อยทั้งสิ้น และไม่นานหลังจากนั้น กลุ่มมุสลิมติดอาวุธเครือข่ายตอลีบานปากีสถาน “Jundullah” หรือ กองทัพของพระเจ้า ได้ออกแถลงการณ์แสดงความรับผิดชอบในเหตุโจมตีล่าสุด

กูลาม ไฮเดอร์ จามาลี (Ghulam Haider Jamali) ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดการาจีแถลงในวันพุธ(13)ว่า เกิดเหตุอุกอาจโจมตีขึ้นในการาจี ทำให้มีตัวเลขผู้เลขผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 43 คน ซึ่งรวมไปถึงผู้หญิง 16 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 13 คน หลังจากรถประจำทางได้วิ่งออกไปนอกเมืองในเขตที่ไม่ค่อยมีผู้คน มุ่งหน้าไปยังศูนย์ศูนย์กลางชุมชนกลุ่มน้อยมุสลิมชีอะห์สังกัดกลุ่มอิสไมลีส (Ismaili Shiite Muslims)ของปากีสถาน และกลุ่มมือปืนก่อการร้ายจำนวน 6 คนบุกขึ้นรถ และกราดยิง จามาลีแถลง และเสริมต่อว่า หลังจากนั้นคนร้ายทั้งหมดได้หลบหนีไปพร้อมกับมอเตอร์ไซด์ 3 คัน

“มีกลุ่มคนที่เป็นพวกมุสลิมสุดโต่ง มีกลุ่มคนที่เป็นพวกก่อการร้าย” จามาลีเอ่ยถึงกลุ่มผู้ลงมือ และเสริมต่อว่า “มีคนกลุ่มเดียวกันได้ลงมือก่อการร้ายมาแล้วก่อนหน้านี้”

และเอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า จามาลีได้ให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดอาวุธที่ใช้ก่อเหตุว่า “คนร้ายทั้ง 6 เดินทางด้วยมอร์เตอร์ไซด์ 3 คัน และหลังจากที่ได้ขึ้นไปบนรถเมล์คันเกิดเหตุแล้ว เริ่มกราดยิงด้วยปืนพกขนาดขนาด 9 มม. ซึ่งพบว่าเหยื่อผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บล้วนแต่ถูกทำร้ายด้วยกระสุนขนาด 9 มม.ทั้งสิ้น”

ในขณะที่อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานว่า หลังจากเกิดเหตุ รถโดยสารคันดังกล่าววิ่งตรงไปยังโรงพยาบาลเมมอน( Memon Medical Institute and Hospital) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด โดยมีผู้โดยสารจำนวน 62 คนยังอยู่บนรถ แต่ทว่าในจำนวนนี้เป็นร่างที่ไร้วิญญาณเป็นจำนวนมาก “เมื่อรถบัสมาถึงโรงพยาบาล เป็นภาพที่น่าสยดสยองเมื่อพบว่ามีศรีษะผู้โดยสารบางส่วนห้อยออกนอกหน้าต่างตัวรถ” แหล่งข่าวโรงพยาบาลเมมอนให้สัมภาษณ์กับอัลญะซีเราะฮ์ และพบว่า ผู้ที่ยังมีชีวิตนั้นมาพร้อมเลือดท่วมตัวด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส

นอกจากนี้ สมาชิกระดับสูงของ Ismaili National Council ซึ่งเป็นองค์กรชาวมุสลิมชีอะห์กลุ่มอิสไมลีส ในปากีสถาน ได้ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต ซึ่งรอยเตอร์ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ตำรวจปากีสถานระดับสูง นาจีบ คาน (Najib Khan) เปิดเผยว่า ผู้โดยสารทั้งหมดบนรถโดยสารคันนี้ล้วนเป็นชาวมุสลิมชีอะห์สังกัดกลุ่มไมลีสทั้งสิ้น

เอพีและรอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเกิดเหตุ ตัวแทนกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธโยงใยตอลีบานปากีสถาน Jundullah หรือ กองทัพของพระเจ้า ได้ออกแถลงการณ์แสดงความรับผิดชอบในเหตุโจมตีล่าสุด อาห์หมัด มาร์วาต (Ahmad Marwat) โฆษก Jundullah ได้ให้สัมภาษณ์กับเอพีทางโทรศัพท์ว่า “พวกนอกศาสนาเป็นเป้าหมายโจมตีของพวกเรา” นอกจากนี้จากการรายงานของรอยเตอร์ มาร์วาตยังกล่าวต่อว่า “กลุ่มผู้เสียชีวิตล้วนแล้วแต่เป็นพวกอิสไมลิส และทางเราตัดสินว่าพวกนี้เป็น “kafir” หรือ พวกไม่ใช่มุสลิม ทาง Jundullah มีผู้ลงมือก่อเหตุ 4 คน และในไม่กี่วันข้างหน้า เราจะลงมือโจมตีกลุ่มอิสไมลิส กลุ่มชีอะห์ และชาวคริสต์”

ด้าน คาเดียร์ บาลัช (Qadir Baluch) พนักงานรักษาความปลอดภัยประจำตึกบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุกล่าวว่า เขาได้ยินเสียงปืนกราดยิง และเห็นกลุ่มมือปืนขับมอร์เตอร์ไซด์หนีไปหลังจากนั้น และหนึ่งในผู้ก่อเหตุสวมเครื่องแบบตำรวจปากีสถาน ในขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานภาพความเสียหาย อาเยชา อาลี (Ayesha Aly) มุสลิมชีอะห์สังกัดอิสไมลิส ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในปากีสถานที่ซึ่งมีพลเมืองส่วนใหญ่ของประเทศเป็นนับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ ได้ให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ปากีสถานในขณะที่เธอปาดน้ำตาและร้องไห้พร้อมกับกล่าวว่า รถเมล์คันเกิดเหตุนั้นเป็นรถโดยสารที่ชนกลุ่มน้อยปากีสถานใช้อาศัยไปทำงานและเดินทางกลับบ้านทุกวัน “ในขณะเกิดเหตุเป็นเส้นทางการวิ่งปกติของรถคันนี้ ที่ผู้คนต่างใช้เพื่อเริ่มชีวิตตามปกติในการทำมาหากินเลี้ยงปากท้อง”

รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า บรรดากลุ่มเครือข่ายตอลีบานปากีสถานได้ลงมือโจมตีมัสยิดชนกลุ่มน้อยหลายแห่งในปี 2015 แต่ทว่าในการก่อเหตุลงมือในวันพุธ(13)ถือเป็นเหตุร้ายแรงที่สุดในปากีสถานนับตั้งแต่เหตุการณ์โจมตีโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ในเมืองเปชวาร์ ในเดือนธันวาคม 2014 และทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 150 คน ซึ่งในจำนวนมีมีนักเรียนเสียชีวิตร่วม 134 คน และเป็นเหตุให้ปากีสถานเริ่มต้นการใช้โทษประหารอีกครั้งหลังจากหยุดใช้ 7 ปีก่อนหน้านั้น และในต้นมกราคม 2015 ทางการปากีสถานได้สั่งแขวนคอผู้ต้องหากลุ่มมุสลิมติดอาวุธจำนวน 7 คนในคดีสังหารหมู่โรงเรียนเปชวาร์









กำลังโหลดความคิดเห็น