xs
xsm
sm
md
lg

ตอลิบานรุกคืบประชิดตอนเหนืออัฟกานิสถาน หลัง 3 เขตของ “คุนดูซ” ถูกนักรบต่างชาติแทรกซึมนานกว่า 3 เดือน - นาโตปฏิเสธคำขอ “โจมตีทางอากาศ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - การะปะทะที่ดุเดือดมากขึ้นระหว่างกองกำลังอัฟกานิสถานเกิดขึ้นในวันอังคาร (28 เม.ย.) หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธตอลิบานจำนวนหลายร้อยคนสามารถรุกคืบเข้าสู่เมืองคุนดูซ ซิตี เมืองเอกในจังหวัดคุนดูซ (Kunduz) ทางเหนือของอัฟกานิสถาน ท่ามกลางความหวาดกลัวของชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเกรงว่ารัฐบาลอัฟกานิสถานจะไม่สามารถปกป้องเมืองแห่งนี้ไว้ได้ ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นร้องขอนาโตคุ้มครองด้วยการโจมตีทางอากาศแต่ได้รับการปฏิเสธ เนื่องจากเกรงอาจทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต ในขณะที่อัลญะซีเราะห์สื่อกาตาร์รายงานว่ามีอย่างน้อย 3 เขตในจังหวัดแห่งนี้ถูกกลุ่มนักรบญิฮัดต่างชาติพาครอบครัวเข้าจับจองและตั้งรกรากไม่ต่ำกว่า 3 เดือน

นักรบญิฮัดตอลิบานหลายร้อยคนสามารถคืบหน้าเข้าใกล้เมืองคุนดูซ ซิตี เมืองเอกของจังหวัดคุนดูซ (Kunduz) ทางตอนเหนือของประเทศได้มากขึ้นในวันนี้ (28) หลังจากปะทะแนววางกำลังของตำรวจและกองทัพอัฟกานิสถานที่ตั้งจุดตรวจอยู่ด้านนอกในวันศุกร์ (25) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากตอลีบานได้ประกาศเริ่มต้นศักราชการโจมตีอัฟกานิสถานรอบใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

เอเอฟพีรายงานในวันอังคาร (28) ว่า ขอบเขตของการปะทะลากยาวไปร่วม 6 กม. ทางตอนเหนือของคุนดูซ ซิตี ในเขตอิหม่าม ซาฮิบ (Imam Sahib) และบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียงทั้งทางตะวันออกและทางใต้ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อัฟกันรายงาน

“ก่อการร้ายตอลีบานได้เข้าโอบล้อมไว้ทั้งเขต และหากกำลังเสริมไม่ทัน เขตนั้นทั้งเขตต้องตกอยู่ในอุ้งมือของกลุ่มติดอาวุธเป็นแน่แท้” อีมามุดดิน คูราอีชี (Imamuddin Quraishi) ผู้ว่าการเขตอิหม่าม ซาฮิบ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี และเสริมต่อว่า “ทางกลุ่มติดอาวุธได้โจมตีเราพร้อมกันถึง 3 ด้าน เราไม่มีกำลังมากพอที่จะต้านทานตอลิบานไว้ได้”

นอกจากนี้ยังพบว่า ถนนในเมืองคุนดูซ ซิตี ร้างไปด้วยผู้คนและรถรา รวมไปถึงร้านรวงต่างๆ และสำนักงานท้องถิ่นของเมืองพากันปิดตัว ที่เจ้าหน้าที่และพ่อค้าแม่ขายต่างหลบหนีเพราะเกรงภัยกลุ่มก่อการร้าย ในขณะที่ชาวเมืองต่างเกรงว่าเมืองแห่งนี้จะถูกตอลีบานยึดในที่สุด

“เราต่างกลัวว่าเมืองแห่งนี้ต้องถูกกลุ่มตอลิบานยึดไว้ได้ในที่สุด และทุกสิ่งที่เคยทำมาตลอดในช่วง 13ปีต้องหายไปกับตา” อาห์มาด ลัคมาน (Ahmad Luqman) พ่อค้าเมืองคุนดูซ ซิตี ให้สัมภาษณ์ และเสริมว่า “ชาวเมืองไม่ต้องการกลับไปสู่ยุคสงครามกลางเมืองอีกครั้ง”

เอเอฟพีวิเคราะห์ว่า จะถือเป็นความเพลี่ยงพล้ำครั้งใหญ่สำหรับฝ่ายรัฐบาลอัฟกานิสถานหากไม่สามารถปกป้องเมืองแห่งนี้จากตอลิบานไว้ได้

และคูราอีชีกล่าวตี่อว่า ทางรัฐบาลท้องถิ่นได้ร้องขอนาโตสำหรับการปกป้องทางอากาศ แต่ทว่าคำขอนี้ได้ถูกปฏิเสธจากเหตุผลที่ว่าการโจมตีทางอากาศอาจทำให้มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ

ด้าน พล.อ.จอห์น แคมป์เบล ผู้บัญชาการกองกำลังนานาชาติภายใต้การนำของนาโตในอัฟกานิสถานได้พบกับประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน อัชราฟ กานี ในวันจันทร์ (27) เพื่อปรึกษาถึงสถานการณ์ในคุนดูซก่อนที่กานีจะออกเดินทางเยือนอินเดียเป็นเวลา 3 วัน

“เราสามารถยืนยันได้ว่า พล.อ.แคมป์เบลได้พบกับประธานาธิบดีกานีเพื่อปรึกษาถึงสถานการณ์การสู้รบในจังหวัดคุณดูซ” คริสโตเฟอร์ เบลเชอร์ (Christopher Belcher) โฆษกกองกำลังผสมให้ข้อมูลโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมหลังจากนั้น

ด้านโฆษกตำรวจอัฟกานิสถาน ซาเยด ซาร์วาร์ ฮุซซาอินี (Sayed Sarwar Hussaini) ยืนยันว่า “การต่อสู้ที่ดุเดือดนั้นเกิดขึ้นใกล้กับเมืองคุนดูซ ซิตี และเสริมต่อว่า กำลังเสริมกองกำลังอัฟกานิสถานถูกเรียกให้ไปช่วยเพื่อหยุดการรุกคืบของกลุ่มนักรบตอลิบาน

และในขณะนี้ยังไม่มีรายงานเปิดเผยถึงตัวเลขผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตของพลเมืองอัฟกัน หรือฝ่ายกองกำลังอัฟกานิสถาน แต่จากแถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถานระบุว่า นักรบญิฮัด 27 คน รวมไปถึงผู้บัญชาการรบตอลิบาน 1 คน ถูกสังหารในวันจันทร์ (27) แต่ทว่าทางกลุ่มก่อการร้ายปฏิเสธตัวเลขการสูญเสีย และยังยืนยันว่า ทางกลุ่มสามารถรุกคืบประชิดเมืองคุนดูซ ซิตี ได้มากขึ้น

ด้านชาวบ้านในละแวกนั้นเปิดเผยว่า ก่อการร้ายตอลิบานได้ระเบิดสะพานที่เชื่อมกับเขตไปยังคุนดูซ ซิตี เพื่อกันไม่ให้ทางรัฐบาลอัฟกานิสถานสามารถส่งกำลังสนับสนุนมาช่วยได้ทัน

ด้านอัลญะซีเราหะห์ สื่อกาตาร์รายงานเมื่อวานนี้ (27) ว่า กลุ่มนักรบญิฮัดต่างชาติพร้อมครอบครัวเข้ายึดครอง 3 เขตในจากทั้งหมด 7 เขตใน จ.คุนดูซ ฮัมดุลลาห์ ดานิชิ (Hamdullah Danishi) ผู้ช่วยว่าการคุนดูซยืนยันว่า “เขตชาร์ดารา (Chardara,) เขตอาร์ชี (Archi) และเขตอิหม่าม ซาฮิบ ล้วนมีกลุ่มติดอาวุธต่างชาติอาศัย”

ทั้ง 5 เดือนที่ผ่านมาหลังการมาของนักรบต่างชาติเหล่านี้ ผู้เฒ่าจาก 10 เผ่าถูกสังหาร เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และชาวบ้านอีก 100 คน “เมื่อชาวบ้านเดินทางออกนอกบ้าน เขาไม่รู้เลยว่าจะสามารถมีชีวิตกลับเข้าบ้านในตอนเย็นได้หรือไม่” หนึ่งในผู้เฒ่าชนเผ่าให้ความเห็น และเสริมว่า “อำนาจทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับกลุ่มคนเหล่านั้น”

ในขณะผู้เฒ่าชนเผ่าอีกคนให้ความเห็นกับสื่อกาตาร์ว่า “เราไม่รู้จักคนพวกนี้ พวกเขาพูดภาษาที่เราไม่เข้าใจ และสวมที่ปิดหน้าสีดำปกปิดใบหน้าตลอดเวลา สิ่งที่เราเห็นคือดวงตานั้น”

ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มนักรบต่างชาตินี้อาจจะเป็นกลุ่ม IS แต่ทางคนกลุ่มนี้กลับไม่ประกาศตัวเปิดเผย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่อัฟกันท้องถิ่น และชาวหมู่บ้านในละแวกนั้นที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นกลุ่ม IS หรือไม่ โดยอัลญะซีเราะห์รายงานเพิ่มเติมว่า ผู้เฒ่าชนเผ่าในพื้นที่และแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อัฟกันระบุเพียงว่า สมาชิกหลักของกลุ่มนักรบญิฮัดต่างชาติประกอบไปด้วย ชาวเชเชนและชาวอุซเบก และมีผสมประปรายบ้างกับชาวอาหรับ ชาวทาจิค ชาวปากีสถาน และอัฟกันตอลิบาน

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อัฟกันให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ภรรยาของนักรบต่างชาติที่ตั้งรกรากในเขตชาร์ดารานั้นมีส่วนสำคัญในการประกอบระเบิด และยังทำหน้าที่เป็นแพทย์ รวมไปถึงทำการตรวจค้นบ้านเรือนชาวบ้านในเขตนั้น และยังรับทำหน้าที่สอนหลักศาสนาอิสลามอีกด้วย ซึ่งภรรยานักรบเหล่านี้ได้ออกคำสั่งให้หญิงอัฟกันในพื้นที่ห้ามไม่ให้ออกนอกบ้านตามลำพัง ยกเว้นหากมีญาติที่เป็นชายเดินทางออกไปด้วย และยังกำชับให้หญิงชาวบ้านเตือนให้สามีของพวกเธอไปมัสยิดสม่ำเสมอ

โดยเฉพาะในเขตชาร์ดาราแล้ว การเข้ามาใหม่ของนักรบต่างชาติและครอบครัวปรากฎเป็นที่เด่นชัดไปทั่วเขต ซึ่งชาวอัฟกันที่อาศัยอยู่ที่นี้ต่างให้ข้อมูลว่า มีการเคาะประตูบ้านทุกหลังเพื่อเรียกเก็บเงินจำนวน 100 ดอลลาร์ ไปจนถึง 5,000 ดอลลาร์

นอกจากนี้ยังพบว่า ระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนในเขตนี้ รวมไปถึงการแต่งกายของนักเรียนอยู่ภายใต้การควบคุมของบรรดานักรบต่างชาติ และรวมไปถึงจำนวนเงินที่ใช้ในการสมรส ส่วนเด็กหญิงที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นต้องเลิกไปโรงเรียน ด้านการเดินทางของชาวบ้านในพื้นที่ทั้งไปและกลับคุนดูซ ซิตี รวมไปถึงผู้ที่ไม่ไปมัสยิดจะได้รับการถูกจับตาเป็นพิเศษ

และอัลญะซีเราะห์ยังรายงานว่า ที่สำคัญที่สุดชาวบ้านในเขตนี้ต้องได้รับอนุญาตจากนักรบต่างชาติก่อนที่จะสามารถพบกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอัฟกันได้



กำลังโหลดความคิดเห็น