“ซีปราส” นั่งนายกฯ รอบสอง ชูภารกิจฟื้นเสถียรภาพกรีซ

เอเจนซีส์ - อเล็กซิส ซีปราส ประกาศจะฟื้นฟูเสถียรภาพของกรีซ หลังพรรคฝ่ายซ้ายไซริซาของเขาชนะการเลือกตั้งขาดลอยเมื่อวันอาทิตย์ (20 ก.ย.) พร้อมย้ำด้วยว่าภารกิจนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากปาฏิหาริย์ แต่ต้องอาศัยการทำงานหนัก โดยผลการนับคะแนนบ่งชี้ชัดเจนถึงความไว้วางใจของชาวกรีกที่มีต่อซีปราส

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะส่วนตัวของซีปราสที่ได้กลับสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัยในเวลาหนึ่งเดือนหลังจากวางเดิมพันกับการเลือกตั้งก่อนกำหนด เพื่อตัดหางสมาชิกพรรคที่ก่อกบฏ เมื่อเขาจำใจย้อนศรการตัดสินใจของตัวเองและยอมรับมาตรการรัดเข็มขัดที่ยากลำบากขึ้นเพื่อแลกกับแพ็คเกจเงินกู้ครั้งที่ 3 จากนานาชาติ

หลังจากตะลุยหาเสียงนานหลายสัปดาห์ท่ามกลางแนวโน้มว่า ผลการเลือกตั้งจะค่อนข้างสูสี ในที่สุดพรรคไซรีซาของซีปราสก็กวาดคะแนนการเลือกตั้งได้ถึง 35.5% เทียบกับพรรคที่เข้ามาเป็นอันดับ 2 คือ พรรคกลาง-ขวา นิว เดโมเครซี ที่ได้คะแนน 28.1% ส่งผลให้ไซรีซาได้ที่นั่งในสภา 145 ที่ จากทั้งหมด 300 ที่นั่ง

ระหว่างการปราศรัยสั้นๆ ต่อผู้สนับสนุนในจัตุรัสกลางกรุงเอเธนส์ ซีปราสประกาศฟื้นเสถียรภาพกรีซ และเสริมว่า ผลการเลือกตั้งซึ่งนับเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 ปีล่าสุด เป็นการมอบหมายหน้าที่อย่างชัดเจนและเขาจะบริหารประเทศจนครบวาระ 4 ปี

อย่างไรก็ตาม ซีปราสเตือนว่าการฟื้นตัวจากวิกฤตไม่ได้เกิดขึ้นจากปาฏิหาริย์ แต่ต้องอาศัยการอดทนทำงานหนัก

เขายังบอกอีกว่าจะดึงพรรค อินดิเพนเดนต์ กรีกส์ ซึ่งเป็นพรรคชาตินิยมขนาดเล็กกลับมาร่วมทีมอีกครั้ง อันจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาคือ 151 เสียง โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า รัฐบาลชุดใหม่อาจสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเร็วที่สุดคือเย็นวันจันทร์ (21 ก.ย.) หรือเช้าวันอังคาร (22 ก.ย.)

นโยบายของรัฐบาลใหม่กรีซจะถูกชี้นำจากแพ็คเกจเงินกู้ล่าสุดมูลค่า 86,000 ล้านยูโร ซึ่งกำหนดให้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ป่วยเรื้อรังอย่างถอนรากถอนโคน รวมทั้งเปลี่ยนแปลงระบบภาษี สวัสดิการ และบำนาญ โดยข้อตกลงปฏิรูปแลกเงินสดนี้จะได้รับการตรวจสอบทุกไตรมาส ครั้งแรกคือในเดือนหน้า

ภารกิจแรกของรัฐบาลใหม่ที่มีเดิมพันเป็นเงินกู้งวดต่อไป 3,000 ล้านยูโรคือ การทบทวนงบประมาณปี 2015 เพื่อรวมการปฏิรูปบำนาญและภาษีเงินได้เข้าไว้ด้วย ทั้งยังต้องดำเนินการกระบวนการเพิ่มทุนธนาคารขั้นสุดท้ายภายในเดือนธันวาคมและเร่งยุติมาตรการควบคุมเงินทุนที่ใช้มาตั้งแต่ต้นฤดูร้อนเพื่อป้องกันการแห่ถอนเงินจากธนาคารพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม การที่ประชาชนออกไปใช้สิทธิเพียง 55% บ่งชี้ความเหนื่อยหน่ายกับการกาบัตรลงคะแนนที่ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วสำหรับปีนี้ เริ่มจากการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนมกราคมที่ทำให้ไซรีซาได้เข้าบริหารประเทศ ตามด้วยการทำประชามติเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปแลกเงินสดในเดือนกรกฎาคม

ทั้งนี้ ซีปราสลาออกกะทันหันและประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากถูกบีบให้ยอมรับกฎเหล็กแลกกับแพกเกจเงินกู้ แม้ผลการทำประชามติระบุว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงถึง 62% คัดค้านมาตรการดังกล่าวก็ตาม

ซีปราสบอกว่า เขามีทางเลือกน้อยมากในภาวะที่กรีซจ่อล้มละลายและต้องออกจากยูโรโซน ซึ่งชาวกรีกส่วนใหญ่ไม่ต้องการ ขณะที่มาตรการควบคุมเงินทุนกัดกินเศรษฐกิจที่หดตัวอยู่แล้วถึง 25% นับจากปี 2010 ทว่า สมาชิกหลายคนในพรรคไซรีซามองว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นการทรยศหลักการของพรรคและก่อขบถ ซึ่งบ่อนทำลายเสียงข้างมากของซีปราสในสภา

ผู้มีสิทธิออกเสียงส่วนใหญ่ยอมให้โอกาสซีปราสอีกครั้ง เพราะอย่างน้อยที่สุดก็เห็นว่า เขามีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศ และยังดูเหมือนใจซื่อมือสะอาดกว่านักการเมืองรุ่นเก่าที่ทุจริตกันจนประเทศล่มจม

ด้านนักวิเคราะห์มองว่า การที่พรรคการเมืองสำคัญทั้งหมด ยกเว้นพรรคขวาจัด โกลเด้น ดอว์นที่ได้คะแนนเลือกตั้งอันดับ 3 (7%) และพรรคคอมมิวนิสต์ เคเคอี ยอมรับมาตรการปฏิรูปแล้วในขณะนี้ บ่งชี้ว่า อย่างน้อยกรีซมีโอกาสที่จะได้พบกับเสถียรภาพการเมืองที่จำเป็นต่อการเริ่มฟื้นฟูประเทศ

สำหรับพรรคป็อปปูลาร์ ยูนิตี้ที่ต่อต้านมาตรการปฏิรูปและก่อตั้งโดยอดีตสมาชิกพรรคไซรีซา 25 คนที่เป็นขบถ ได้คะแนนเลือกตั้งไม่ถึง 3% ตามที่กำหนดในการเข้าสู่สภา

โฮลเกอร์ ชมิดดิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเบเรนเบิร์ก แบงก์จากเยอรมนีชี้ว่า หลังจากวิกฤตที่เกือบเรียกได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่เรื้อรังนานหลายปี ชาวกรีกส่วนใหญ่ตัดสินใจรับรองพรรคการเมืองที่ให้สัญญาจะทำให้กรีซคงอยู่ในยูโรโซนต่อไป แม้คำสัญญาดังกล่าวหมายถึงการปฏิรูปที่เจ็บปวดก็ตาม

ชมิดดิงยังบอกด้วยว่า ระดับความวุ่นวายที่ซีปราสทำให้เกิดขึ้นในกรีซและการกลับลำครั้งใหญ่ของเขาตอกย้ำว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ของซีปราส

ซีปราสประกาศว่า จะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัดที่มีต่อพลเมืองที่ยากจนที่สุด โดยอธิบายว่า แพกเกจเงินกู้เป็น “สิ่งมีชีวิต” ที่บางส่วนยังเปิดกว้างสำหรับการต่อรอง ซึ่งรวมถึงการลดหนี้ การแปรรูปกิจการ แรงงานสัมพันธ์ และวิธีจัดการกับหนี้ที่ไม่ก่อเกิดรายได้ของธนาคาร