เอเจนซีส์ - อัยการยูเครนเตรียมสั่งฟ้องผู้อำนวยการโรงงานผลิตไวน์ชื่อดังในไครเมียฐานนำไวน์เก่าแก่อายุ 240 ปีมาเปิดให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และอดีตนายกรัฐมนตรี ซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี แห่งอิตาลีได้ชิม ระหว่างที่ผู้นำทั้งสองไปเยี่ยมชมโรงงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ปูตินและแบร์ลุสโกนีได้เดินทางไปเที่ยวชมโบราณสถานต่างๆ ที่ตั้งอยู่บนแหลมไครเมียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อัยการยูเครนระบุว่า ทั้งสองได้ลิ้มรสไวน์ชั้นเลิศที่มาสซานดรา (Massandra) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงมากของไครเมีย
โรงไวน์แห่งนี้เคยเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลยูเครน ก่อนที่มอสโกจะประกาศผนวกแหลมไครเมียในเดือนมีนาคม ปี 2014
อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีคงไม่สามารถกระทำในไครเมียได้ เนื่องจากอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียอย่างสมบูรณ์
สื่อรัสเซียอ้างรายงานของสำนักข่าว เรดิโอ ฟรี ยุโรป ซึ่งระบุว่าแบร์ลุสโกนีได้เอ่ยปากขอชิมไวน์ระหว่างที่ไปเยือนโรงงานมาสซานดรา
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ยานินา พาฟเลนโก ผู้อำนวยการโรงไวน์ซึ่งมีแนวคิดนิยมรัสเซีย ได้ตอบความปรารถนาของอดีตนายกฯ อิตาลีด้วยการเปิดไวน์ “เจอเรส เดอ ลา ฟรอนเตรา” ที่ผลิตในปี 1775 ให้แขกผู้ทรงเกียรติทั้งสองได้ทดลองชิม
สถานีโทรทัศน์รัสเซียเผยแพร่ภาพ แบร์ลุสโกนี เดินชมชั้นวางขวดไวน์ที่มีฝุ่นจับเกรอะอย่างเพลิดเพลิน ในขณะที่ ปูติน ฟังการบรรยายจาก พาฟเลนโก ซึ่งเป็นผู้นำชมสถานที่
หลังจากนั้น อดีตนายกฯ อิตาลีก็หยุดยืนดูไวน์ที่ผลิตในปี 1891 และถามเป็นภาษาอังกฤษว่า “ดื่มได้หรือไม่” ซึ่งผู้อำนวยการหญิงของโรงไวน์ก็ตอบทันทีว่า “ได้สิคะ”
สื่อรัสเซียไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับไวน์ขวดนั้น แต่อัยการยูเครนประเมินว่า ไวน์ขวดที่ แบร์ลุสโกนี สนใจอยากชิมมีมูลค่ามากกว่า 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ
อัยการยูเครนเตรียมที่จะยื่นฟ้อง พาฟเลนโก ในข้อหายักยอกทรัพย์ (embezzlement)
“มันเป็นไวน์ 1 ใน 5 ขวดซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของไครเมีย และเป็นสมบัติของชาวไครเมียทุกคน” นาซาร์ โคลอดนิตสกี รองอัยการประจำภูมิภาคไครเมีย ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเอพีที่กรุงเคียฟ
โคลอดนิตสกีระบุว่า ไวน์ 2 ขวดซึ่งเหมือนกับที่ถูกเปิดให้ ปูติน กับ แบร์ลุสโกนี ดื่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เคยถูกนำออกประมูลในกรุงลอนดอนเมื่อปี 2001 และขวดหนึ่งทำราคาจำหน่ายได้เกือบ 49,700 ดอลลาร์สหรัฐ
“เงินที่ได้จากการประมูลไวน์ทั้ง 2 ขวด ส่วนหนึ่งถูกนำไปเข้าคลังรัฐบาลยูเครน และอีกส่วนใช้เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงไวน์มาสซานดราและการผลิตไวน์ในไครเมีย” เขากล่าว
นิโคไล บอยโก ผู้อำนวยการโรงไวน์มาสซานดราคนก่อน ถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังอัยการรัสเซียยื่นฟ้องฐานฉ้อโกง
ด้าน พาฟเลนโก ที่เข้ามารับตำแหน่งแทนก็ถูกรัฐบาลยูเครนออกหมายจับฐานทรยศชาติ เนื่องจากเป็นคนหนึ่งที่โหวตสนับสนุนให้ไครเมียถูกผนวกเข้ากับรัสเซียในปี 2014
ปูติน และ แบร์ลุสโกนี สนิทชิดเชื้อกันตั้งแต่อดีตนายกฯ อิตาลียังเรืองอำนาจ และยังคงรักษาสัมพันธภาพที่ดีต่อกันเรื่อยมา หลังจากที่ แบร์ลุสโกนี พ้นตำแหน่งในปี 2011