(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
US, China haggle over investment treaty ahead of summit
By Asia Unhedged
16/09/2015
ตามการแถลงของโฆษกสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ขณะนี้วอชิงตันกับปักกิ่งกำลังเจรจาต่อรองกันเพื่อจัดทำสนธิสัญญาการลงทุนระดับทวิภาคีฉบับหนึ่ง โดยคาดหมายกันว่าจะเสร็จสิ้นสามารถประกาศออกมาได้ในช่วงที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินทางไปเยือนอเมริกาและประชุมหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
มีการประชุมหารือระดับผู้นำของ 2 ชาติทรงอำนาจทางเศรษฐกิจที่สุดบนพื้นพิภพครั้งไหนบ้าง ที่จะไม่มีการเดินหมากเปิดเกมต่อรองกันสักเล็กสักน้อย?
สหรัฐฯกับจีนตอนนี้จึงกำลังเจรจาหาทางยื่นหมูยื่นแมวกัน เกี่ยวกับเนื้อหาจริงๆ ที่จะปรากฏอยู่ในสนธิสัญญาการลงทุนทวิภาคี ซึ่งพวกเขาคาดหมายว่าจะสามารถตกลงกันและประกาศออกมา ในตอนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เยือนทำเนียบขาวในสัปดาห์หน้า
เนื่องจากจีนมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการลงทุนของต่างประเทศมากกว่าสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้วอชิงตันจึงต้องการให้ปักกิ่งยอมลดทอนสิ่งที่ฝ่ายอเมริกันเรียกว่า บัญชีรายการเชิงลบว่าด้วยภาคเศรษฐกิจต่างๆ ของจีนที่ปิดกั้นนักลงทุนสหรัฐฯ (negative lists of sectors closed to the US investors) ทั้งนี้ตามคำแถลงของโฆษกหญิงของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (U.S. Trade Representative หรือ USTR) ต่อทางสำนักข่าวรอยเตอร์ (ดูรายละเอียดของคำแถลงนี้ได้ที่http://www.reuters.com/article/2015/09/15/us-usa-china-investment-idUSKCN0RF2KN20150915)
กระบวนการต่อรองกันในเรื่องนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศทั้งสองก็ได้ทำการแลกเปลี่ยนบัญชีรายการที่ผ่านการศึกษาทบทวนของแต่ละฝ่ายแล้ว ทั้งนี้ในขณะที่วอชิงตันโวยวายเรื่องที่ปักกิ่งยังปิดกั้นนักลงทุนอเมริกันในหลายๆ ภาคส่วนเศรษฐกิจของจีน ทางฝ่ายปักกิ่งก็แสดงความไม่พอใจที่วอชิงตันกำลังระบุเจาะจงเฉพาะนักลงทุนชาวจีนเท่านั้นที่ต้องผ่านการพิจารณาทบทวนทางด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ก่อนจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่หลายๆ ภาคส่วนเศรษฐกิจของอเมริกา
“สหรัฐฯอยู่ระหว่างการศึกษาพิจารณาบัญชีรายการเชิงลบที่ผ่านการทบทวนของฝ่ายจีนมาแล้ว ตลอดจนทำการประเมินขั้นตอนต่อๆ ไปในการเจรจาเรื่องนี้” โฆษกหญิงของ USTR บอกกับรอยเตอร์
กำหนดการเดินทางเยือนสหรัฐฯของประธานาธิบดีสี เที่ยวนี้ จะไปยังชายฝั่งเวสต์โคสต์ก่อนในวันจันทร์หน้า (21 ก.ย.) เพื่อพบปะหารือกับผู้นำภาคธุรกิจ และจะสิ้นสุดลงด้วยการเจรจาหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ทำเนียบขาวในช่วงต่อไปของสัปดาห์ดังกล่าว
เมื่อวันอังคาร (15 ก.ย.) ที่ผ่านมา เหล่าซีอีโอของกิจการใหญ่ที่สุดของอเมริกา 94 ราย ได้ร่วมกันลงนามในหนังสือฉบับหนึ่งซึ่งส่งไปถึง สี และ โอบามา มีเนื้อหาเรียกร้องให้ประเทศทั้งสองบรรลุการจัดทำสนธิสัญญาการลงทุนระดับทวิภาคี “ที่มีสาระสำคัญและอยู่ในมาตรฐานสูง” โดยเร็ว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเอาไว้เช่นนี้
พวกซีอีโอซึ่งร่วมเซ็นชื่อกันในคราวนี้ มีอาทิ ทิม คุก (Tim Cook) แห่ง แอปเปิล (Apple), วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) แห่ง เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway), เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน (Rex Tillerson) แห่ง เอ็กซอนโมบิล (ExxonMobil), เจฟฟรีย์ อิมเมลต์ (Jeffrey Immelt) แห่ง เจเนอรัล อิเล็กทริก (General Electric), มูห์ตาร์ เคนต์ (Muhtar Kent) แห่ง โคคา โคลา (Coca Cola), มาร์ก ฟิลด์ส (Mark Fields) แห่ง ฟอร์ด (Ford), ดั๊ก แมคมิลลอน (Doug McMillon) แห่ง วอลมาร์ท (Walmart), และ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) แห่ง เฟซบุ๊ก (Facebook)
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
US, China haggle over investment treaty ahead of summit
By Asia Unhedged
16/09/2015
ตามการแถลงของโฆษกสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ขณะนี้วอชิงตันกับปักกิ่งกำลังเจรจาต่อรองกันเพื่อจัดทำสนธิสัญญาการลงทุนระดับทวิภาคีฉบับหนึ่ง โดยคาดหมายกันว่าจะเสร็จสิ้นสามารถประกาศออกมาได้ในช่วงที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินทางไปเยือนอเมริกาและประชุมหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
มีการประชุมหารือระดับผู้นำของ 2 ชาติทรงอำนาจทางเศรษฐกิจที่สุดบนพื้นพิภพครั้งไหนบ้าง ที่จะไม่มีการเดินหมากเปิดเกมต่อรองกันสักเล็กสักน้อย?
สหรัฐฯกับจีนตอนนี้จึงกำลังเจรจาหาทางยื่นหมูยื่นแมวกัน เกี่ยวกับเนื้อหาจริงๆ ที่จะปรากฏอยู่ในสนธิสัญญาการลงทุนทวิภาคี ซึ่งพวกเขาคาดหมายว่าจะสามารถตกลงกันและประกาศออกมา ในตอนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เยือนทำเนียบขาวในสัปดาห์หน้า
เนื่องจากจีนมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการลงทุนของต่างประเทศมากกว่าสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้วอชิงตันจึงต้องการให้ปักกิ่งยอมลดทอนสิ่งที่ฝ่ายอเมริกันเรียกว่า บัญชีรายการเชิงลบว่าด้วยภาคเศรษฐกิจต่างๆ ของจีนที่ปิดกั้นนักลงทุนสหรัฐฯ (negative lists of sectors closed to the US investors) ทั้งนี้ตามคำแถลงของโฆษกหญิงของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (U.S. Trade Representative หรือ USTR) ต่อทางสำนักข่าวรอยเตอร์ (ดูรายละเอียดของคำแถลงนี้ได้ที่http://www.reuters.com/article/2015/09/15/us-usa-china-investment-idUSKCN0RF2KN20150915)
กระบวนการต่อรองกันในเรื่องนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศทั้งสองก็ได้ทำการแลกเปลี่ยนบัญชีรายการที่ผ่านการศึกษาทบทวนของแต่ละฝ่ายแล้ว ทั้งนี้ในขณะที่วอชิงตันโวยวายเรื่องที่ปักกิ่งยังปิดกั้นนักลงทุนอเมริกันในหลายๆ ภาคส่วนเศรษฐกิจของจีน ทางฝ่ายปักกิ่งก็แสดงความไม่พอใจที่วอชิงตันกำลังระบุเจาะจงเฉพาะนักลงทุนชาวจีนเท่านั้นที่ต้องผ่านการพิจารณาทบทวนทางด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ก่อนจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่หลายๆ ภาคส่วนเศรษฐกิจของอเมริกา
“สหรัฐฯอยู่ระหว่างการศึกษาพิจารณาบัญชีรายการเชิงลบที่ผ่านการทบทวนของฝ่ายจีนมาแล้ว ตลอดจนทำการประเมินขั้นตอนต่อๆ ไปในการเจรจาเรื่องนี้” โฆษกหญิงของ USTR บอกกับรอยเตอร์
กำหนดการเดินทางเยือนสหรัฐฯของประธานาธิบดีสี เที่ยวนี้ จะไปยังชายฝั่งเวสต์โคสต์ก่อนในวันจันทร์หน้า (21 ก.ย.) เพื่อพบปะหารือกับผู้นำภาคธุรกิจ และจะสิ้นสุดลงด้วยการเจรจาหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ทำเนียบขาวในช่วงต่อไปของสัปดาห์ดังกล่าว
เมื่อวันอังคาร (15 ก.ย.) ที่ผ่านมา เหล่าซีอีโอของกิจการใหญ่ที่สุดของอเมริกา 94 ราย ได้ร่วมกันลงนามในหนังสือฉบับหนึ่งซึ่งส่งไปถึง สี และ โอบามา มีเนื้อหาเรียกร้องให้ประเทศทั้งสองบรรลุการจัดทำสนธิสัญญาการลงทุนระดับทวิภาคี “ที่มีสาระสำคัญและอยู่ในมาตรฐานสูง” โดยเร็ว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเอาไว้เช่นนี้
พวกซีอีโอซึ่งร่วมเซ็นชื่อกันในคราวนี้ มีอาทิ ทิม คุก (Tim Cook) แห่ง แอปเปิล (Apple), วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) แห่ง เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway), เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน (Rex Tillerson) แห่ง เอ็กซอนโมบิล (ExxonMobil), เจฟฟรีย์ อิมเมลต์ (Jeffrey Immelt) แห่ง เจเนอรัล อิเล็กทริก (General Electric), มูห์ตาร์ เคนต์ (Muhtar Kent) แห่ง โคคา โคลา (Coca Cola), มาร์ก ฟิลด์ส (Mark Fields) แห่ง ฟอร์ด (Ford), ดั๊ก แมคมิลลอน (Doug McMillon) แห่ง วอลมาร์ท (Walmart), และ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) แห่ง เฟซบุ๊ก (Facebook)
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
