เอเอฟพี - องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) หน่วยงานคลังสมองชื่อโด่งดังของพวกประเทศพัฒนาแล้ว ระบุว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ได้ช่วยทำให้ผลการเรียนของเด็กนักเรียนกระเตื้องดีขึ้นอย่างชัดเจนอะไรเลย ทั้งนี้ตามรายงานฉบับล่าสุดนำออกเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (15 ก.ย.) ซึ่งมุ่งศึกษาถึงผลกระทบของเทคโนโลยีภายในห้องเรียนของโรงเรียนต่างๆ ทั่วโลก
ขณะที่เกือบ 3 ใน 4 ของนักเรียนในประเทศต่างๆ ที่ทำการสำรวจคราวนี้ต่างก็ได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์กันภายในโรงเรียน แต่รายงานฉบับนี้ของโออีซีดีกลับพบว่า เทคโนโลยีไม่ได้ช่วยให้ผลการเรียนปรับปรุงกระเตื้องขึ้นอย่างโดดเด่น
ตรงกันข้าม ในหลายๆ ส่วนของเอเชีย ซึ่งนักเรียนมีผลการเรียนดีมาก และก็เป็นอาณาบริเวณซึ่งโทรศัพท์สมาร์ทโฟนกับเคอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งที่แยกไม่ออกจากการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้คนไปแล้วนั้น เทคโนโลยีกลับปรากฏตัวให้เห็นในห้องเรียนของประเทศและดินแดนเหล่านี้ในระดับที่น้อยนิด
ทั้งนี้ ในเกาหลีใต้ นักเรียนใช้คอมพิวเตอร์กันในโรงเรียนเฉลี่ยเพียงคนละ 9 นาทีต่อวัน ส่วนในฮ่องกงก็เพียงคนละ 11 นาที ซึ่งต่างก็เป็นเศษเสี้ยวของนักเรียนในออสเตรเลียที่ใช้กันเฉลี่ยคนละ 58 นาทีต่อวัน, กรีซ 42 นาที และสวีเดน 39 นาที
“ในโรงเรียนที่มีการใช้คอมพิวเตอร์ในห้องเรียนนั้น ผลกระทบเครื่องอุปกรณ์เทคโนโลยีเหล่านี้ที่มีต่อผลการเรียนของนักเรียน อย่างดีที่สุดที่สามารถพูดได้ก็คือ มีทั้งที่เป็นไปในทางบวกและที่เป็นไปในทางลบ” อันเดรียส ชเลเชอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาของโออีซีดี กล่าวไว้ในคำนำของรายงานฉบับนี้ซึ่งถือเป็นฉบับแรกในหัวข้อเรื่องนี้ของทางโออีซีดี
“นักเรียนที่ใช้คอมพิวเตอร์บ่อยมากๆ ในโรงเรียน เป็นผู้ที่มีผลการเรียนแทบทุกด้านออกมาย่ำแย่กว่านักเรียนที่ได้ใช้น้อย แม้กระทั่งหลังจากนำเอาปัจจัยด้านภูมิหลังทางสังคมและโครงสร้างทางประชากรศาสตร์ของนักเรียน มาคิดคำนวณแล้ว”
ทั้งนี้รายงานฉบับนี้มุ่งศึกษาว่า การใช้เทคโนโลยีในโรงเรียน ส่งผลอย่างไรต่อผลการสอบด้วยข้อสอบมาตรฐานระหว่างประเทศ เป็นต้นว่า ข้อสอบ “ปิซ่า” ของโออีซีดี ซึ่งมีการนำออกมาให้นักเรียนในหลายสิบประเทศทั่วโลกได้ทำกัน ตลอดจนข้อสอบอย่างอื่นๆ ที่มุ่งวัดทักษะความชำนาญด้านดิจิตอล
รายงานพบว่าระบบการศึกษาซึ่งได้ทุ่มเทลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีการสื่อสารนั้น “ไม่มีการกระเตื้องดีขึ้นอย่างชัดเจน” ในผลการสอบด้านการอ่าน, คณิตศาสตร์, หรือวิทยาศาสตร์
โออีซีดีเรียกร้องในรายงานฉบับนี้ขอให้โรงเรียนต่างๆ ทำงานกับครูบาอาจารย์ เพื่อเปลี่ยนเทคโนโลยีให้กลายเป็นเครื่องมือในห้องเรียนที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการทำการทดลองและการฝึกเลียนแบบ, สื่อสังคมและเกม ซึ่งมีความซับซ้อนครอบคลุมมากขึ้น
“คุณูปการอันแท้จริงที่เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สามารถให้แก่การเรียนการสอนได้นั้น ปัจจุบันยังไม่ได้ถูกทำออกมาให้เห็นจริง และยังไม่ได้ถูกนำเอามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่” รายงานฉบับนี้สรุป