เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - วิกฤตผู้อพยพสุดตึงเครียดในวันนี้ (14 ก.ย.) ออสเตรียสั่งการให้ทหารจำนวน 2,200 นายรับมือการไหลเข้าไม่หยุดของผู้อพยพจากซีเรียและตะวันออกกลาง รวมไปทั้งสโลวาเกียได้ออกคำสั่งควบคุมพรมแดน ในขณะที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า ในวันอาทิตย์ (13) รถไฟขนผู้ลี้ภัยจากออสเตรียทุกเที่ยวถูกสั่งห้ามเข้าเยอรมนี และรัฐมนตรีมหาดไทยเยอรมนีออกคำสั่งให้มีการจัดตั้งด่านควบคุมพรมแดนทางใต้ของประเทศติดพรมแดนออสเตรียอีกครั้งหลังจากที่เยอรมนีไม่สามารถพึ่งอียูในการหาทางออกได้ และมีรายงานสาธารณรัฐเช็กออกคำสั่งควบคุมพรมแดนแล้วเช่นเดียวกัน
เอเอฟพีรายงานวันนี้ว่า ออสเตรียซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นทางผ่านของผู้อพยพจากซีเรีย ตะวันออกกลาง เข้าสู่เยอรมัน ได้ออกคำสั่งให้ทหารจำนวน 2,200 นาย ทำหน้าที่รับมือการผ่านแดนของผู้อพยพเข้าสู่ประเทศ รวมไปถึงการตั้งด่านตรวจบริเวณพรมแดน รัฐบาลออสเตรียแถลงในวันจันทร์ ซึ่งคำสั่งของรัฐบาลออสเตรียในการส่งทหารตั้งด่านตรวจบริเวณพรมแดนสอดคล้องกับมาตรการฉุกเฉินของเยอรมนีที่ออกมาล่าสุด
เอเอฟพียังรายงานเพิ่มเติมต่อว่า ในวันนี้นอกจากออสเตรียแล้ว ยังมีสโลวาเกียได้มีคำสั่งให้มีการส่งเจ้าหน้าที่คุมพรมแดนด้านติดกับออสเตรียและฮังการี
มิเชลา เปาเลโนวา (Michaela Paulenova) โฆษกกระทรวงมหาดไทยสโลวาเกีย กล่าวผ่านแถลงการณ์ในวันนี้ว่า หลังจากการประกาศควบคุมพรมแดนชั่วคราวของเยอรมนีในด้านติดออสเตรียนั้น รัฐบาลสโลวาเกียได้เห็นสอดคล้องให้มีการนำมาตรการควบคุมพรมแดนกลับมาใช้อีกครั้งในบริเวณที่ติดกับฮังการีและออสเตรีย
ในแถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยสโลวาเกียยังกล่าวต่อว่า “เนื่องมาจากการรับมือวิกฤตผู้อพยพไหลเข้าประเทศ สโลวาเกียสั่งตำรวจจำนวน 220 นายตรึงกำลังบริเวณชายแดนประเทซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติตามมาตรฐานปกติทั่วไป”
ทั้งนี้ เปาเลโนวาเสริมว่า และพรมแดนในส่วนที่เป็นป่าทึบและที่ห่างไกลรกร้าง ทางสโลวาเกียเห็นควรให้จัดกำลังไปประจำควบคุมด้วย
เอเอฟพีชี้ว่า การประกาศควบคุมพรมแดนของสโลวาเกียมีขึ้น 1วันหลังจากที่หนึ่งวันหลังจากที่สาธารณรัฐเช็ก ประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีการล้อมคอกประกาศคุมพรมแดนติดออสเตรียแล้ว
และสอดคล้องกับการประกาศควบคุมพรมแดนของเยอรมันก่อนหน้านี้จากการรายงานของรอยเตอร์ที่พบว่า เยอรมนีได้นำมาตรการควบคุมพรมแดนกลับมาใช้อีกครั้งในวันอาทิตย์ (13) ซึ่งเป็นการประกาศใช้ชั่วคราวโดยเริ่มจากพรมแดนทางใต้ติดออสเตรีย หลังจากที่รัฐบาลเยอรมนีของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิลไม่สามารถแก้ปัญหาการไหลข้าวของผู้อพยพอย่างไม่หยุดนับเป็นเวลา 1 สัปดาห์ที่ผู้นำเยอรมนีประกาศเปิดประเทศรับผู้อพยพ
“มาตรการชั่วคราวนี้ออกมาเพื่อจำกัดจำนวนการไหลทะลักเข้าเยอรมนีไม่หยุดของบรรดาผู้อพยพในเวลานี้ ซึ่งทางเยอรมนีจะกลับนำระบบเก่าในการควบคุมพรมแดนกลับมาใช้อีกครั้ง” รัฐมนตรีมหาดไทยเยอรมนี โทมัส เด ไมซีเรอ (Thomas de Maiziere) แถลงในวันอาทิตย์ (13)
รอยเตอร์ชี้ว่า การเคลื่อนที่ไร้พรมแดนถือเป็นหนึ่งในนโยบายพื้นฐานสำคัญของการรวมกลุ่มสหภาพยุโรป แต่ทว่าในเวลานี้คณะกรรมาธิการยุโรปกลับกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “การเคลื่อนที่เสรีภายใต้เชงเกนถือเป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่สำคัญของการรวมตัวสหภาพยุโรป แต่อย่างไรก็ตามในเวลานี้การร่วมมือในการจัดการพรมแดนด้านนอก และการร่วมแรงแก้ปัญหาวิกฤตคลื่นผู้อพยพนั้นมีความสำคัญมากกว่า”
และในวันจันทร์ (14) ที่ประชุมอียูซึ่งมีรัฐมนตรีมหาดไทยจากชาติสมาชิก 28 ชาติจะเข้าหารือถึงโควต้าการเฉลี่ยรับผู้อพยพจำนวน 160,000 คนทั่วทั้งสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ในการหารือของชาติสมาชิกสหภาพยุโรปในวันอาทิตย์ (13) ที่ประชุมล้มเหลวในการหาทางออก หลังจากชาติสมาชิกยุโรปตะวันออกบางส่วนยังคงยืนกรายปฏิเสธรับผู้อพยพเหล่านี้ไว้ตามโควต้าที่ประชุมกำหนด โดยอ้างว่ามติเช่นนี้มีแต่จะทำให้มีผู้อยพยพจำนวนมมากขึ้นเข้าสู่ยุโรป และทำให้สังคมชาติพันธุ์ที่มีคอเคเชียนเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศต้องหมดไป
ในขณะที่ RT สื่อรัสเซียรายงานเพิ่มเติมว่า นอกเหนือไปจากการประกาศหันกลับมาตั้งด่านปิดพรมแดนอีกครั้ง เมื่อวานนี้ (13) มีรายงานว่า รถไฟขนผู้ลี้ภัยจากออสเตรีย OeBB ทุกเที่ยวถูกสั่งห้ามเข้าเยอรมนี ซึ่งก่อนหน้านี้ รถไฟ OeBB ยังได้ประกาศหยุดการเดินรถทุกเที่ยวไม่ว่าจะเป็นขาเข้าและขาออกจากฮังการีสู่ออสเตรีย แต่อย่างไรก็ตาม สื่อรัสเซียชี้ว่ายังไม่แน่ว่าเดินรถไฟที่เล็กกว่าจะปฏิบัติตามหรือไม่