เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่มาเลเซียระบุว่า มีเรือลำหนึ่งที่เชื่อกันว่ามีผู้อพยพชาวอินโดนีเซียประมาณ 70 รายอยู่บนนั้น ได้ล่มลงบริเวณช่องแคบมะละกาตอนรุ่งสางวันพฤหัสบดี (3 ก.ย.) ทำให้มีผู้จมน้ำเสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย
เจ้าหน้าที่บอกเอเอฟพีว่า เรือลำดังกล่าวจมลงตรงบริเวณที่มีคลื่นขนาดเล็ก นอกชายฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย ใกล้กับเมืองซาบักเบอร์นัม รัฐสลังงอร์
"ชาวประมงท้องถิ่นช่วยขึ้นมาได้ 13 ราย แล้วก็พบผู้เสียชีวิต 13 ศพ" เจ้าหน้าที่บอกนักข่าว
จากขนาดของเรือที่ล่ม น่าจะสามารถบรรทุกคนได้ประมาณ 70 ราย แต่ชาวประมงท้องถิ่นบอกว่า อาจจะมีผู้อพยพอยู่บนเรือลำนี้มากถึง 100 ราย
"เราได้จัดส่งเครื่องบินกับเรือ 12 ลำพร้อมกับเจ้าหน้าที่ราว 200 นายออกไปปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้ชีพ สำหรับเหยื่อรายอื่นที่เหลือ" เจ้าหน้าที่ระบุ
เจ้าหน้าที่ของทางการมาเลเซียยังไม่ได้สอบถามผู้ที่รอดชีวิตเพื่อทำการยืนยันสัญชาติ ส่วนศพถูกนำไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองเตลุคอินตัน รัฐเปรัค
"เราไม่แน่ใจว่าผู้อพยพเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามาเลเซียหรือพยายามจะออกนอกประเทศแบบผิดกฏหมาย" เจ้าหน้าที่กล่าว พร้อมกับบอกด้วยว่า นี่เป็นโศกนาฏกรรมทางเรือที่เลวร้ายสุดในปีนี้
ทั้งนี้ มาเลเซีย ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นจุดดึงดูดผู้อพยพจากอินโดนีเซียที่ต้องการหางานทำ
มีการประเมินว่า มีผู้อพยพแบบผิดกฏหมายประมาณ 2 ล้านราย ส่วนใหญ่เป็นชาวอินโดนีเซีย ที่เข้ามาทำงานในมาเลเซีย
อุบัติเหตุทางน้ำถูกพบเห็นได้บ่อยครั้ง จากการที่มีผู้คนหลายพันพยายามที่เดินทางข้ามทะเลที่เต็มไปด้วยอันตราย เพื่อมาทำงานค่าแรงต่ำตามฟาร์มเพาะปลูก พื้นที่ก่อสร้างและโรงงานต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ชาวมาเลเซียรังเกียจและไม่อยากทำเอง
บ่อยครั้งที่ชาวอินโดนีเซียยอมเสี่ยงมากขึ้นด้วยการเลือกที่จะเดินทางข้ามช่องแคบมะละกาท่ามกลางความมืดเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจพบ
เมื่อเดือนมิถุนายนที่แล้ว มีเรือที่บรรทุกคนเกินขนาดลำหนึ่ง ที่นำพาผู้อพยพชาวอินโดนีเซีย 97 รายกลับบ้านในช่วงเดือนรอมฎอน ได้เกิดจมลงในทะเลนอกชายฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย