เอเอฟพี – รัฐบาลจีนจัดพิธีสวนสนามครั้งใหญ่เนื่องในโอกาสครบ 70 ปีแห่งการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินใจกลางกรุงปักกิ่งวันนี้ (3 ก.ย.) โดยมีการนำอาวุธยุทธภัณฑ์ต่างๆ มาแสดงอวดสายตาชาวโลก ซึ่งถือเป็นการประกาศความเป็นมหาอำนาจในโลกยุคใหม่
ณ จัตุรัสเทียนอันเหมินซึ่งประธาน เหมา เจ๋อ ตง เคยอ่านประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นเมื่อปี 1949 ประธานาธิบดี สี่ จิ้น ผิง ได้กล่าวยกย่อง “การมีชัยชนะอย่างเด็ดขาด” เหนือกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่า “ช่วยฟื้นคืนสถานะความเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ของจีนในสายตาชาวโลก”
ผู้นำชาติมหาอำนาจส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานในการโชว์แสนยานุภาพของจีน เนื่องจากไม่พอใจที่ปักกิ่งใช้นโยบายก้าวร้าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะและน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้
พิธีสวนสนามวันนี้(3) เปิดฉากขึ้นพร้อมๆ กับที่กองเรือจีน 5 ลำมุ่งหน้าออกจากชายฝั่งไปไกลถึงทะเลเบห์ริงเป็นครั้งแรก ซึ่งเท่ากับเป็นการท้าทายอิทธิพลของสหรัฐฯ
หลังสิ้นเสียงยิงสลุต 70 นัด ทหารจีนกว่าหมื่นนายได้ตบเท้าเดินขบวนเข้าสู่จัตุรัสเทียนอันเหมิน พร้อมด้วยขบวนรถถังและขีปนาวุธนานาชนิด ขณะที่บนท้องฟ้าก็มีอากาศยานทหารราว 200 ลำบินวนท่ามกลางสภาพอากาศที่แจ่มใสไร้เมฆหมอก
ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียถือเป็นผู้นำต่างชาติคนสำคัญที่สุดที่เดินทางมาเป็นแขกของปักกิ่งในวันนี้(3) และได้ส่งกองทหารแดนหมีขาวมาร่วมเดินสวนสนามพร้อมกับทหารจีนด้วย
สี่ ระบุว่า จีนจะไม่ “แสวงหาความเป็นใหญ่” ในภูมิภาค พร้อมประกาศจะลดจำนวนทหารในกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกลงอีก 300,000 นาย
ปักกิ่งเคยสั่งลดจำนวนทหารในกองทัพที่มีมากถึง 2.3 ล้านนายมาแล้วในอดีต เพื่อปรับปรุงกองทัพให้มีประสิทธิภาพในการสู้รบเพิ่มขึ้น
สงครามโลกครั้งที่ 2 มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการในจีนว่า “สงครามประชาชนจีนต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น และสงครามโลกต่อต้านฟาสซิสม์”
รัฐบาลจีนยังคงวิจารณ์ญี่ปุ่นเรื่อยมาว่าไม่แสดงความสำนึกผิดต่อความโหดร้ายป่าเถื่อนที่ได้กระทำกับเพื่อนบ้านในช่วงสงคราม แต่ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่า พิธีสวนสนามใหญ่ในวันนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อข่มขวัญชาติใด รวมถึงญี่ปุ่นด้วย
อาวุธยุทโธปกรณ์ที่จีนนำออกมาโชว์เป็นครั้งแรกในวันนี้ยังรวมถึงจรวด DF-21D ซึ่งเป็นขีปนาวุธต่อต้านเรือที่ได้ฉายาว่า “carrier-killer” และอาจส่งผลต่อดุลอำนาจระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในมหาสมุทรแปซิฟิก
