เอเอฟพี – ทีมอัยการเกาหลีใต้เรียกร้องวันนี้ (3 ก.ย.) ให้ศาลตัดสินจำคุก 15 ปีนักเคลื่อนไหวชาตินิยมจัดซึ่งถือมีดทำครัวบุกเข้าไปกรีดใบหน้าทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงโซลจนเป็นแผลเหวอะเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
คิม คี-จอง วัย 56 ปี ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า หลังบุกเดี่ยวเข้าไปทำร้ายเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ มาร์ก ลิปเพิร์ต จนเป็นแผลฉกรรจ์ ซึ่งทำให้แพทย์ต้องเย็บแผลลึกบนใบหน้าของเขาถึง 80 เข็ม
คิม ยังถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งห้ามมิให้พลเมืองโสมขาวช่วยเหลือหรือส่งเสริมค่านิยมของเกาหลีเหนือ
“ผู้ต้องหาซึ่งใช้มีดทำครัวเป็นอาวุธ พยายามมุ่งร้ายต่ออวัยวะบนร่างกายของเหยื่อซึ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตอยู่... จึงเห็นได้ชัดว่าเขามีเจตนาที่จะสังหาร”
อัยการระบุด้วยว่า คิม พยายามโปรโมตจุดยืนของเปียงยางที่กล่าวหาว่าภารกิจซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้เป็นการ “ซ้อมรุกราน” เกาหลีเหนือ และลงมือทำร้ายทูต ลิปเพิร์ต เพื่อยับยั้งไม่ให้การซ้อมรบเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม คิม ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้มีเจตนาทำร้าย ลิปเพิร์ต ถึงตาย
“ผมแค่อยากสร้างความโกลาหลขึ้นก่อนงานเสวนาตอนเช้า เพื่อดึงดูดความสนใจของเขาเรื่องการซ้อมรบ ผมไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขา” เขาแถลงวันนี้ (3) ก่อนที่ศาลจะอ่านคำพิพากษาในวันศุกร์หน้า(11)
คิม เป็นที่รู้จักในฐานะนักเคลื่อนไหวอิสระ และเคยขว้างก้อนหินใส่สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงโซลจนถูกตัดสินจำคุก 2 ปีโดยรอลงอาญามาแล้ว เมื่อปี 2010
เขาบอกพนักงานสอบสวนว่า ลิปเพิร์ต เป็น “เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์” ที่เขาเลือกโจมตี เพื่อแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับภารกิจซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้สองเกาหลียังเจรจากันไม่ได้เสียที
คิม เคยไปเยือนเกาหลีเหนือ 7 ครั้ง และหลังจากที่ผู้นำ คิม จอง อิล ถึงแก่อสัญกรรมลงเมื่อปี 2011 เขาก็พยายามผลักดันให้มีการสร้างอนุสาวรีย์ในกรุงโซลเพื่อรำลึกถึง คิม แต่ไม่สำเร็จ
รัฐบาลโสมแดงยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้บงการ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการทำร้ายทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงโซล พร้อมประณามผู้ที่ตั้งข้อสังเกตเช่นนี้ว่าพยายาม “ป้ายสี” เกาหลีเหนือ
