เอเอฟพี – แรงงานหลายล้านคนทั่วอินเดียวพร้อมใจนัดหยุดงานเป็นเวลา 24 ชั่วโมงในวันนี้ (2) เพื่อประท้วงนโยบายเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีฝ่ายขวา นเรนทรา โมดี ซึ่งพวกเขาระบุว่าจะทำให้หลายตำแหน่งงานตกอยู่ในความเสี่ยงและทำร้ายประชาชนธรรมดาทั่วไป
สหภาพแรงงานหลัก 10 กลุ่มได้เริ่มการประท้วงนานหนึ่งวันนี้เพื่อคัดค้านแผนการริเริ่มหนุนธุรกิจของรัฐบาล หลังจากที่การเจรจากับ อรุณ เชฏลี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังพังลง
กลุ่มสหภาพแรงงานกำลังเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกแผนการที่จะขายหุ้นในรัฐวิสาหกิจเพื่อให้มีเงินเข้ารัฐมากขึ้นและเพื่อปิดโรงงานต่างๆ ที่ไม่เป็นประโยชน์
แรงงานราว 150 ล้านคนรวมถึงผู้ที่ทำงานภาคธนาคาร การผลิต การก่อสร้าง และการทำเหมืองถ่านหิน คาดว่าจะหยุดงานกันในวันนี้ (2)
การหยุดงานประท้วงครั้งนี้ยังจะส่งผลกระทบต่อการขนส่งด้วย โดยจะเห็นได้จากแถวยาวของผู้ที่ไปกลับเป็นประจำและเด็กนักเรียนบริเวณป้ายรถเมล์ในช่วงเช้าวันนี้ (2) ขณะที่ตามสนามบินก็มีผู้โดยสารติดค้างจำนวนมากเนื่องจากรถแท็กซีและรถสามล้อหายไปจากท้องถนน
การบริการทางการเงินก็คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการประท้วงดังกล่าวด้วย โดยมีธนาคารจำนวนมากปิดให้บริการในวันนี้ (2)
คนขายของหาบเร่ , แรงงานภายในประเทศ และกรรมกรค่าจ้างรายวันก็คาดว่าจะร่วมการหยุดงานประท้วงด้วยเพื่อเรียกร้องค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น
ภาพจากโทรทัศน์เผยให้เห็นผลกระทบของการประท้วงครั้งนี้ในรัฐเบงกอลตะวันตกทางภาคตะวันออก ซึ่งกลุ่มสหภาพแรงงานมีอิทธิพลอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเมืองหลวงโกลกาตาขอรัฐนี้แทบจะถูกทิ้งร้าง เนื่องจากสาขาธนาคาร ร้านค้า และธุรกิจอื่นๆ ต่างปิดในช่วงเช้าวันนี้ (2)
โมดี ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว และได้ให้คำมั่นสัญญาถึงการปฏิรูปต่างๆ ที่เอื้อต่อธุรกิจเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติและฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของเอเชีย
แต่ฝ่ายค้านได้สกัดแผนปฏิรูปภาษีแลที่ดินอันสำคัญยิ่ง ทำให้นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้น ขณะเดียวกันกลุ่มสหภาพแรงงานก็ไม่พอใจต่อแผนปฏิรูปดังกล่าวมากขึ้นเรื่อยๆ
เศรษฐกิจอินเดียเติบโตต่ำกว่า 7.0 เปอร์เซ็นต์ที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณนี้ และผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การปฏิรูปมีความจำเป็นต่อการสร้างงานให้กับคนรุ่นใหม่หลายล้านคน
การประท้วงหยุดงานหลายครั้งก่อนหน้านี้ได้ทำให้เมืองหลายแห่งเป็นอัมพาท และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจอินเดียเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์