ไวส์ โลจิสติกส์ คาดลอจิสติกส์สดใส มั่นใจครึ่งปีหลังคึกรับไฮซีซัน

ไวส์ โลจิสติกส์ ส่องภาพรวมลอจิสติกส์ส่อแววดี รับอานิสงส์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้น มั่นใจครึ่งปีหลังคึกรับไฮซีซัน พร้อมเดินเกมรุกเจาะตลาดสหรัฐฯ เอเชีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เผยข่าวดีเริ่มรับงานลูกค้าใหม่ในกลุ่มประเทศ AEC ทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หนุนรายได้รวมปีนี้แตะ 800 ล้านบาท

นางอารยา คงสุนทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการลอจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ทั้งการนำเข้า และส่งออก โดยการขนส่งทางทะเล ทางอากาศ พร้อมให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และการขนส่งในประเทศ รวมถึงบริการขนส่งสินค้าแบบประตูสู่ประตู (Door to Door) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจลอจิสติกส์ทั้งการนำเข้า และส่งออกค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาส 3/2558 โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา และยุโรป ที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น จึงถือเป็นผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมการส่งออก และนำเข้า

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือต่ออุตสาหกรรมลอจิสติกส์ที่กำลังขยายตัว โดยบริษัทได้วางแผนมุ่งเน้นการขยายบริการแก่ลูกค้าเดิม พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้ารายใหม่ออกไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งในโซนตลาดหลักในสหรัฐอเมริกา ตลาดรองในแถบเอเชีย และเขตการค้าสำคัญในประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ขณะที่การขยายตลาดใหม่ในประเทศกลุ่ม AEC เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ปัจจุบันเริ่มมีออเดอร์ในรูปแบบงานโปรเจกต์เข้ามาบางส่วนแล้ว พร้อมทั้งมีการขยายฐานลูกค้าที่มีการขนส่งในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ อาหาร และแป้ง เพิ่มเติมด้วย

ขณะที่ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 มีรายได้รวมอยู่ที่ 350.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.99% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมที่ 337.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.36 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน เนื่องจากปริมาณการให้บริการทางอากาศ (Air Freight) ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงปรับตัวลดลง (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 20% สำหรับงวด 6 เดือนปี 58 เมื่อเทียบกับสัดส่วนเฉลี่ยในอดีตอยู่ที่ 25%) ในขณะที่ปริมาณการให้บริการทางทะเล (Sea Freight) ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นน้อยมีปริมาณงานเพิ่มขึ้น (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 61% สำหรับงวดหกเดือนปี 58 เมื่อเทียบกับสัดส่วนเฉลี่ยในอดีตที่อยู่ที่ 55%) อีกทั้งในช่วงไตรมาส 1 บริษัทมีค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดจากการนัดหยุดงานของสหภาพแรงงาน ท่าเรือชายฝั่งตะวันตกในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัท

อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าการลดลงของผลประกอบการดังกล่าวจะเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น อีกทั้งเชื่อมั่นว่าในช่วงครึ่งปีหลังการนำเข้า และส่งออกจะเริ่มทยอยส่งสัญญาณกลับมาคึกคัก เนื่องจากถือเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ และบริษัทยังตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปีนี้ที่ 800 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมจากการบริการอยู่ที่ 670.20 ล้านบาท