เอเอฟพี – ตำรวจแถลงในวันนี้ (2) ว่า มหาเธร์ มูฮาหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียจะถูกเรียกตัวมาซักถามเกี่ยวกับถ้อยแถลงที่เขากล่าวในการชุมนุมครั้งใหญ่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งถูกจัดขึ้นเพื่อเรียกร้องให้ นาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันลาออกเนื่องจากข้อกล่าวการคอร์รัปชั่น
มหาเธร์ วัย 90 ปี ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดของแดนเสือเหลือง ได้พูดปลุกใจฝูงชนที่การชุมนุมดังกล่าวของคนหลายหมื่นในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันอาทิตย์ (31) ด้วยการเรียกร้องให้พวกเขาเดินหน้ากดดันให้ นาจิบ ลาออกต่อไป
เขายังกล่าวหา นาจิบ ด้วยว่าติดสินบนนักการเมืองหลายคนในพรรครัฐบาลอัมโน (United Malays National Organisation) เพื่อให้สนับสนุนตัวเขา และระบุว่า นาจิบกำลังยึดเกาะอำนาจเพื่อหลบเลี่ยงข้อกล่าวหาการคอร์รัปชั่น
สำนักข่าวออนไลน์มาเลเซียกินี รายงานโดยอ้างคำพูดของ คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า “เราจะเรียกตัวเขา (มหาเธร์) เขาได้กล่าวคำปราศรัยและคำกล่าวหา”
“จากคำกล่าวหาเหล่านั้น เขาอ้างว่าหัวหน้าพรรคอัมโนหลายคนรับสินบน ดังนั้นเราจึงต้องการตรวจสอบเพิ่มเติม” รายงานข่าวไม่ได้ให้รายเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม
แนวร่วมรัฐบาลของมาเลเซียมักสั่งจับกุมฝ่ายตรงข้ามที่มีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ซึ่งฝ่ายค้านเรียกว่าเป็นรูปแบบของการข่มขู่อย่างเป็นระบบ
ในตอนนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า มหาเธร์ซึ่งยังคงมีอิทธิพลในพรรครัฐบาล จะถูกตั้งข้อหาใดๆ หรือไม่ ด้านคณะผู้จัดการประท้วงเมื่อสุดสัปดาห์กล่าวว่า พวกเขาก็ถูกสั่งให้ไปรายงานตัวกับตำรวจในวันนี้ (2) ด้วย
นาจิบ ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนับตั้งแต่ที่หนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัลเปิดเผยเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนของมาเลเซียได้พบว่ามีเงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของเขาอย่างลับๆ
หลังจากนั้นรัฐบาลของเขาออมายอมรับว่ามีการโอนดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และอธิบายว่ามันเป็น “เงินบริจาคทางการเมือง” จากหลายแหล่งในตะวันออกกลาง แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ความไม่พอใจเกี่ยวกับข่าวฉาวดังกล่าวได้พุ่งสูงขึ้นจากการการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลโดยนาจิบ รวมถึงการปลดอัยการสูสุดของมาเลเซีย ซึ่งดูเหมือนว่าได้ทำให้การสืบสวนหยุดลงกลางคัน
ก่อนที่จะมาเจอกับกรณีนี้ นาจิบกำลังเผชิญกับการเรียกร้องเป็นเวลาหลายเดือนให้อธิบายว่าเงินจำนวนมากจากข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวโยงกับบริษัทของรัฐแห่งหนึ่งที่เขาริเริ่มหายไปอยู่ที่ไหน นาจิบปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด และระบุว่าเขาเป็นเหยื่อของ “การสมคบคิดทางการเมือง”