เอเอฟพี - รัฐบาลมาเลเซียเข้าคืนพื้นที่ถนนหลายเส้นของเมืองหลวงในวันนี้ (31 ส.ค.) หลังจากที่มีการประท้วงใหญ่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมแสดงให้เห็นถึงอำนาจของรัฐบาลด้วยการจัดงานเฉลิมฉลองวันชาติหลากสีสันที่มีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน
ภายใต้การควบคุมสั่งการของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค รัฐบาลได้จัดการเดินขบวนที่มีผู้เข้าร่วมโบกธงชาติเป็นจำนวนมากตามภาพที่ถูกออกอากาศถ่ายทอดสด แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ผู้สนับสนุนการปฏิรูปและนักวิเคราะห์หลายคนยอมรับว่าจะเป็นงานหนักที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล
กลุ่มผู้จัดการประท้วงเมื่อสุดสัปดาห์นี้กล่าวว่า ประชาชนกว่า 200,000 คนได้เข้าร่วมการเดินขบวนดังกล่าวที่ถูกจัดขึ้นเพื่อเรียกร้องให้นาจิบลาออกเนื่องจากกรณีข่าวฉาวทางการเงินของเขา
“เราได้ทำดีที่สุดแล้ว และตอนนี้มันเป็นทีของพวกเขา” ไซมอน แทม ทนายความซึ่งเข้าร่วมการประท้วงทั้งสองวันกล่าว “การเอานาจิบลงไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจไม่มีหวังเลย แต่เราจะทนดูอยู่เฉยๆ โดยไม่พูดอะไรเลยได้อย่างไร”
นาจิบตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนับตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้วที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลเผยแพร่เอกสารชุดหนึ่งของทางการมาเลเซียที่เผยให้เห็นว่ามีเงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของเขานับตั้งแต่ปี 2013 หลังจากนั้นรัฐมนตรีในคณะของเขายอมรับว่ามีการโอนดังกล่าวจริง โดยเรียกมันว่าเป็น “เงินบริจาคทางการเมือง” จากหลายๆ แหล่งในตะวันออกกลาง แต่ปฏิเสธที่จะอธิบายเพิ่มเติม
มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำทรงอิทธิพลซึ่งกดดันให้นาจิบลาออกมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว เรียกนาจิบว่าเป็นผู้นำทุจริตและต่ำช้า และได้ก่อให้กระแสปลุกเร้าด้วยการเข้าร่วมการประท้วงเมื่อวานนี้ (30) โดยเขาเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมเดินหน้าโค่นล้มนาจิบต่อไป
มหาเธร์ซึ่งเคยสั่งสลายการทำอารยะขัดขืนในช่วงที่เขากุมบังเหียนแนวร่วมรัฐบาลแห่งชาติ (Barisan Nasional) ช่วงปี 1981-2003 ได้ทำให้หลายฝ่ายเซอร์ไพรส์ด้วยการพูดถึงการปฏิวัติ “พลังประชาชน” ของฟิลิปปินส์เมื่อปี 1986
“หากรัฐบาลเพิกเฉยต่อกฎหมาย เราต้องชุมนุมประท้วง ถ้าคุณดูในกรณีของมาร์กอส ตอนที่เขาปกครองฟิลิปปินส์อยู่ ประชาชนต้องโค่นล้มเขาด้วยการประท้วง” เขากล่าว โดยพูดถึงเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตประธานาธิบดีของแดนตากาล็อก
แต่การเดินขบวนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์และการสนับสุนจากมหาเธร์ไม่ได้ถูกมองว่าสร้างความกังวลอย่างร้ายแรงให้แก่นาจิบซึ่งยังรักษาอำนาจการควบคุมพรรครัฐบาลอันทรงอำนาจของเขาไว้ได้อย่างมั่นคง ในทางกลับกัน รัฐบาลของเขายังคงเปรมปรีดิ์กับแรงสนับสนุนอันเหนี่ยวแน่นในหมู่ประชากรชาวมาเลย์ที่เป็นชนหมู่มากของประเทศนี้
“การเดินขบวนดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า (กลุ่มประชาสังคมและฝ่ายค้าน) สามารถเรียกมวลชนออกมาได้เป็นจำนวนมาก แต่การกระทำเช่นนี้สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริงหรือไม่นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด” อิบรอฮิม ซัฟเฟียน ผู้บริหารสำนักโพลชั้นนำของแดนเสือเหลือง Merdeka Centre กล่าว
“นาจิบสามารถนอนหลับได้สนิท เพราะว่าหนทางเดียวที่จะสามารถถอดถอนเขาได้คือต้องผ่านรัฐสภาหรือพรรครัฐบาลเท่านั้น”
ในการปราศรัยเมื่อคืนวานนี้ (30) นาจิบดึงดันปฏิเสธที่จะลงจากตำแหน่ง และเรียกผู้ประท้วงว่าเป็นพวกความคิดตื้นเขิน เมื่อเร็วๆ นี้นาจิบได้สั่งปลดพวกชอบวิจารณ์ในคณะรัฐมนตรีของเขา และดูเหมือนว่าจะได้หยุดการสืบสวนเรื่องเงินบริจาคผ่านการเดินเรื่องด้วยตนเอง
ผู้เข้าร่วมการประท้วงในกรุงกัวลาลัมเปอร์ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะมาจากชนกลุ่มน้อยชาวจีน ซึ่งมีจำนวนคิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรประเทศนี้ บ่งชี้ว่าประท้วงดังกล่าวมีแรงสนับสนุนในประเทศอย่างจำกัด