xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียจ่อผ่านกฎหมายกำจัดอิทธิพลเงินดอลลาร์-ยูโร ในการค้าระหว่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ตกเป็นข่าวเสนอร่างกฏหมายยุติการใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโรอย่างถาวรในการค้าขายระหว่างกลุ่มประเทศเครือจักรภพแห่งรัฐเอกราช (ซีไอเอส) หรือบรรดาอดีตประเทศที่เคยอยู่ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต

คำแถลงของวังเครมลิน หรือทำเนียบประธานาธิบดีแดนหมีขาวล่าสุดยืนยันว่า ความพยายามในการผลักดันร่างกฏหมายฉบับนี้ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในไม่ช้า จะช่วยขยายการใช้เงินสกุลรูเบิลและเงินสกุลท้องถิ่นอื่นๆ ให้มีบทบาทเพิ่มมากขึ้น และช่วยให้เกิดความสะดวกในด้านการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนช่วยปกป้องเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในภูมิภาคให้รอดพ้นจากผลกระทบที่เป็นผลพวงจากภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐอเมริกา และยุโรปเวลานี้

หากร่างกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการจะถือเป็นการพลิกโฉมด้านการค้าระหว่างประเทศครั้งสำคัญจากแต่เดิมที่เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ และเงินสกุลยูโรมีบทบาทสำคัญยิ่งในฐานะสื่อกลางของการค้าขายระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตที่ยังใช้เงินตราทั้ง 2 สกุลของโลกตะวันตกเป็นสื่อกลางคิดเป็นสัดส่วนราว 50 เปอร์เซ็นต์ หรือครึ่งหนึ่งของการค้าขายระหว่างกัน

ก่อนหน้านี้ กลุ่มประเทศที่เป็นสมาชิกของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (Eurasian Economic Union : EEU) ซึ่งประกอบไปด้วยรัสเซีย เบลารุส อาร์เมเนีย และคาซัคสถานได้ตกลงร่วมกันที่จะหันมาใช้เงินสกุลรูเบิลของรัสเซีย และเงินสกุลท้องถิ่นของแต่ละประเทศสมาชิกเป็นสื่อกลางในการค้าขายระหว่างกันอย่างเต็มรูปแบบภายในกรอบเวลาที่เริ่มจากปี ค.ศ. 2025 เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในความพยายามที่ริเริ่มโดยรัสเซียในการกำจัดอิทธิพลของเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโร

เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว “กาซปรอม” ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซียประกาศยกเลิกการใช้ “เงินดอลลาร์สหรัฐ” ในการซื้อ-ขายพลังงานกับบริษัทของจีน และประกาศจับมือรัฐบาลปักกิ่งใช้เงินสกุล “รูเบิล” และ “เงินหยวน” แทน ในตลาดพลังงาน โดยที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียระบุ ทั่วโลกกำลังหันหลังให้อเมริกา เพราะ “ทำตัวกร่าง”

รายงานข่าวระบุว่า บริษัท “กาโซวายา โปรมีชเลนนอสต์” หรือชื่อย่อที่รู้จักกันทั่วไปว่า “กาซปรอม” ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย ซึ่งครองตำแหน่งผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศยกเลิกการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ ในทางบัญชีอย่างสิ้นเชิง โดยเริ่ม “นำร่อง” ใช้วิธีการนี้กับกรณีที่มีการติดต่อซื้อขายด้านพลังงานกับรัฐบาลจีน หรือบริษัทเอกชนของจีนก่อน โดยเตรียมหันมาใช้เงินรูเบิลของรัสเซีย และเงินหยวนของจีน เป็นสื่อกลางในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติอย่างเต็มตัว

อังเดร ครูกลอฟ ประธานบริหารฝ่ายการเงินของกาซปรอมออกมาแถลงในเวลานั้นที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในกรุงมอสโก โดยระบุว่า การตัดสินใจเลิกใช้เงินดอลลาร์ในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติครั้งนี้ ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วจากผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งต่างเชื่อมั่นว่า “การยุติบทบาทของเงินดอลลาร์ในตลาดพลังงาน” จะไม่ส่งผลกระทบทางลบใดๆ ต่อทั้งบริษัท รวมถึงรัฐบาลรัสเซียและจีน โดยคาดว่า การหันมาใช้เงินรูเบิลและเงินหยวนแทนนั้นจะสามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบภายใน 1 ปี หรืออย่างช้าไม่เกิน 2 ปี

ด้าน วิกตอร์ ซุบคอฟ ประธานใหญ่ของกาซปรอมออกมาประกาศว่า การยกเลิกใช้เงินดอลลาร์อเมริกันในการซื้อขายด้านพลังงานถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดนับตั้งแต่ที่กาซปรอมก่อตั้งกิจการเมื่อปี 1989 และคาดหวังว่าจะมีการหันไปใช้เงินตราสกุลอื่นๆ เป็นสื่อกลางในตลาดพลังงานโลกมากขึ้นในอนาคต

“นี่คือข่าวที่น่ายินดีที่สุดนับตั้งแต่ที่กาซปรอมเปิดตัวสู่ตลาด พลังงานโลกเมื่อปี 1989 ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าการลดบทบาทของเงินดอลลาร์ ถือเป็นเรื่องที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ และในอนาคต บทบาทของเงินตราสกุลอื่นในตลาดพลังงานมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น” วิกตอร์ ซุบคอฟ ประธานใหญ่ของกาซปรอมกล่าวต่อผู้สื่อข่าว

ขณะที่ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เวลานี้สถานะและความน่าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกาในเวทีโลกกำลัง “เสื่อมถอย” ลงอย่างมาก และการเสื่อมถอยที่ว่านี้ เป็นผลพวงโดยตรงจากการที่รัฐบาลอเมริกัน “ทำตัวกร่าง” และมีพฤติกรรมแทรกแซงประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพียงเพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง” พร้อมย้ำว่าการตัดสินใจของกาซปรอมในการเลิกใช้เงินดอลลาร์เป็นสื่อกลางทางบัญชีครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของ “บทเรียนล้ำค่า” อีกหลายบทเรียนที่สหรัฐฯ กำลังจะได้รับ และเป็นสัญญาณเตือนว่าทั่วโลกกำลัง “หันหลังให้อเมริกา”

ก่อนหน้านี้ รัสเซียและจีนได้บรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่มีการลงนามเมื่อ 21 พฤษภาคมปีที่แล้ว โดยตามข้อตกลงดังกล่าวระบุว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีขนาดของเศรษฐกิจ “ใหญ่ที่สุดในเอเชีย” และยังเป็นชาติที่มีการ “บริโภคพลังงาน” มากเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ตกลงสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในวงเงินมหาศาลคิดเป็นเงินไทยราว “12.95 ล้านล้านบาท”

โดยที่ข้อตกลงดังกล่าวนี้ ครอบคลุมการส่งมอบก๊าซธรรมชาติจากแดนหมีขาวสู่แดนมังกรนานถึง 30 ปีเต็ม และกาซปรอมจะทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับทางไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลียม (CNPC) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีนในปริมาณ “38,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี”


กำลังโหลดความคิดเห็น