เอเอฟพี – กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นจัดทำคำของบประมาณก้อนใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ (31) ในขณะที่โตเกียวกำลังยกระดับกองทัพของตนท่ามกลาความขัดแย้งด้านดินแดนที่เรื้อรังและความกังวลเกี่ยวกับการขยายอิทธิพลทางทะเลของจีน
กระทรวงกลาโหมต้องการงบ 5.09 ล้านล้านเยน (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) สำหรับปีงบประมาณหน้า โดยมุ่งเน้นที่การเสริมสร้างการป้องกันหมู่เกาะทางใต้ที่ทอดยาวจากแผ่นดินใหญ่ของแดนอาทิตย์อุทัยถึงน่านน้ำใกล้ไต้หวัน
หากคำขอดังกล่าวได้รับการอนุมัติจะถือเป็นการเพิ่มขึ้นของงบประมาณประจำปีครั้งที่ 4 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 2.2 เปอร์เซ็นต์จากงบประมาณสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคมปี 2016
แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ที่จะสร้างกองทัพให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เนื่องจากมองเห็นว่าความตึงเครียดกับจีนอาจพุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้เขายังกำลังพยายามปรับเปลี่ยนรัฐธรรมนูญฉบับใฝ่สันติของญี่ปุ่น ความเปลี่ยนแปลงที่อาจทำให้ได้เห็นกองทหารเลือดซามูไรเข้าร่วมการสู้รบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2
ความพยายามดังกล่าวแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่เป็นที่ชื่นชอบในประเทศ และกระตุ้นให้ประชาชนหลายหมื่นออกมาประท้วงนอกรัฐสภาเมื่อวานนี้ (30)
ความพยายามด้านลาโหมของอาเบะยังก่อให้เกิดความไม่พอใจในจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งต่างเป็นเหยื่อของการรุกรานโดยกองทัพญี่ปุ่นจนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
ญี่ปุ่นระแวดระวังจีนมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่แดนมังกรถูกมองโดยหลายชาติในภูมิภาคนี้ว่าเริ่มมีความก้าวร้าวมากขึ้นทุกขณะในการอ้างอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่พิพาทหลายๆ แห่งรวมถึงหมู่เกาะที่โตเกียวครอบครองอยู่
หนึ่งในสินค้าในรายการจับจ่ายของกระทรวงกลาโหมครั้งนี้คือเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ทางทะเล SH-60K จำนวน 17 ลำ ราคารวม 103,000 ล้านเยน (ราว 30,444 ล้านบาท)
นอกจากนั้นทางกระทรวงยังต้องการอากาศยานไร้นักบิน (โดรน) โกลบอลฮอว์กจำนวน 3 ลำ , เครื่องบินขับไล่สเตลท์เอฟ-35 จำนวน 6 ลำ และวี-22 ออสเปรย์ ซึ่งเป็นเครื่องบินชนิดปรับใบพัดที่สามารถขึ้น-ลงแนวดิ่งได้เหมือนเฮลิคอปเตอร์ แต่มีพิสัยเดินทางไกลเทียบเท่าเครื่องบินทั่วไป อีกจำนวน 12 ลำ
คำของบประมาณล่าสุดนี้มีออกมาหลังจากที่คณะรัฐมนตรีอาเบะตัดสินใจที่จะกันงบประมาณไว้ราว 24.7 ล้านล้านเยนระหว่างปี 2014-2019 เพื่อการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับ, เรือดำน้ำ, เครื่องบินขับไล่ และยานพาหนะสะเทินน้ำสะเทินบก
ญี่ปุ่นและจีนมักมีปากมีเสียงกันในเรื่องสิทธิการครอบครองหมู่เกาะที่ญี่ปุ่นเรียกว่าเซ็งกากุแต่จีนอ้างสิทธ์ในชื่อเตี้ยวอี๋ว์ โดยเรือและเครื่องบินของทางการจีนมักทดสอบกองกำลังของญี่ปุ่นอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ โตเกียวยังคอยระแวดระวังเกาหลีเหนือที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ด้วย