เอเอฟพี – ฮิวเมนไรท์วอทช์ออกมาเรียกร้องในวันนี้ (20) ให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) บังคับใช้คำสั่งห้ามค้าขายอาวุธกับรัฐบาลซีเรีย หลังจากที่การโจมตีทางอากาศที่เมืองแห่งหนึ่งของฝ่ายกบฏคร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 100 คน
กลุ่มซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่นิวยอร์กแห่งนี้ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (16) ที่เมืองดูมานอกกรุงดามัสกัสแสดงให้เห็น “การไม่คำนึงถึงพลเรือนอย่างน่าตกใจ” ของรัฐบาลซีเรีย
การโจมตีทางอากาศหลายระลอกที่เมืองดังกล่าวในแคว้นกูทาตะวันออกสังหารชีวิตพลเรือนเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากการโจมตีหลายครั้งลงมาที่ตลาดที่มีคนพลุกพล่านแห่งหนึ่ง
“การสังหารหมู่ล่าสุดนี้เป็นอีกเครื่องเตือนใจหนึ่งถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่คณะมนตรีความมั่นคงจะต้องปฏิบัติตามมติก่อนหน้านี้ของพวกเขา และใช้มาตรการเพื่อหยุดการโจมตีโดยไม่เลือกหน้า” นาดิม ฮูรี รองผู้อำนวยการฮิวเมนไรท์วอทช์ภูมิภาคตะวันออกกลาง กล่าว
กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ซึ่งมีฐานในอังกฤษ รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าวที่ 96 ราย แม้ว่าฮิวเมนไรท์วอท์ชจะรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 112 รายก็ตาม ทั้งนี้อ้างจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
การโจมตีดังกล่าวเป็นหนึ่งในการโจมตีของรัฐบาลที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในความขัดแย้งนี้ ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2011
มันมีขึ้นเกือบ 2 ปีหลังจากที่การโจมตีด้วยอาวุธเคมีในแคว้นกูทาตะวันออกได้คร่าชีวิตผู้คนไป 1,400 คน ตามตัวเลขขององค์การสหประชาชาติ ประชาคมโลกส่วนใหญ่กล่าวโทษรัฐบาลซีเรียสำหรับการโจมตีดังกล่าว แม้ว่าพวกเขาจะปฏิเสธความรับผิดชอบก็ตาม
ฮิวแมนไรท์วอทช์ตั้งข้อสังเกตว่าเมืองดูมา และส่วนอื่นๆในแคว้นกูทาตะวันออกอันเป็นที่มั่นของฝ่ายกบฏ มักตกเป็นเป้าการโจมตีทางอากาศของรัฐบาลที่ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างไม่สมส่วน
ฮิวแมนไรท์วอทช์ยังตำหนิพวกกลุ่มกบฏที่ปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าวด้วยในเรื่องที่พวกเขาสุ่มยิงปืนใหญ่ถูกพลเรือนในเขตแดนใกล้เคียงที่รัฐบาลยึดครองอยู่ รวมถึงกรุงดามัสกัส
ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นล้มเหลวในการบังคับใช้มติของพวกเขาเองที่เรียกร้องให้ยุติการโจมตีพลเรือนและการใช้อาวุธอย่างไม่เจาะจงเป้าหมายในสถานที่คนพลุกพล่าน
ฮิวแมนไรท์วอทช์เรียกร้องให้ยูเอ็นเฝ้าสังเกตการณ์การโจมตีเช่นนี้ หาตัวผู้รับผิดชอบ และคว่ำบาตรพวกเขาเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ฮูรี ถามทิ้งท้ายว่า “จะต้องมีอีกกี่ชีวิตที่ต้องสูญเสียก่อนที่คณะมนตรีความมั่นคงจะบังคับใช้มติของพวกเขาเอง”