เอเอฟพี - พลเรือนอย่างน้อย 31 คนถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศของรัฐบาลซีเรียที่แคว้นกูตาตะวันออกใกล้กรุงดามัสกัสในวันนี้ (12 ิส.ค.) ในขณะที่ฝ่ายกบฏกำลังยิงจรวดถล่มเมืองหลวงแห่งนี้ของซีเรียอย่างหนัก กลุ่มสังเกตการณ์รายงาน
กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนายชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 120 คนในการโจมตีดังกล่าวของรัฐบาล หลายคนบาดเจ็บสาหัส และชี้ว่ายอดผู้เสียชีวิตข้างต้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก
การโจมตีทางอากาศดังกล่าวมีเป้าหมายที่เมืองดูมา, ซักบา , คัฟห์บัตนา และฮัมมูริเยห์ในกูตาตะวันออก แคว้นที่มั่นของพวกกบฏนอกเมืองหลวง
การโจมตีดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่กลุ่มกบฏยิงจรวดหลายสิบลูกเข้าสู่กรุงดามัสกัส คร่าชีวิตคนไปอย่างน้อย 5 คน ทั้งนี้อ้างจากกระทรวงมหาดไทยซีเรีย
สถานีโทรทัศน์ของรัฐรายงาน โดยอ้างจากทางกระทรวงฯ ว่า “นอกจากความเสียหายทางด้านทรัพย์สินแล้ว ยังมีผู้ถูกสังหาร 4 คนและบาดเจ็บอีก 58 คน” ในย่านที่พักอาศัยต่างๆ ของกรุงดามัสกัส
กลุ่มสังเกตการณ์ฯ กล่าวว่า พวกกบฏยิงจรวดไปแล้วอย่างน้อย 50 ลูกและทำให้ยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวเพิ่มเป็น 5 คน โดย 4 คนเป็นพลเรือนและหนึ่งคนเป็นทหาร ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ 59 ราย
พวกกบฏมักยิงจรวดเข้าไปในเมืองหลวงของซีเรียจากที่มั่นแนวหลังบริเวณชานเมืองกรุงดามัสกัส และบางครั้งก็เป็นจำนวนหลายร้อยลูก
บรรดากลุ่มสิทธิต่างประณามการที่พวกกบฏยิงจรวดเข้าใส่เมืองหลวงแห่งนี้อย่างไม่เจาะจงเป้าหมายว่าไม่ต่างกับการก่ออาชญากรรมสงคราม
ฝ่ายรัฐบาลดำเนินการโจมตีทางอากาศใส่พื้นที่ที่พวกกบฏยึดครองบริเวณชานเมืองกรุงดามัสกัสอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะแคว้นกูตาตะวันออกซึ่งก็อยู่ภายใต้การปิดล้อมของฝ่ายรัฐบาล
ในวันนี้ (12) กลุ่มแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลกล่าวหารัฐบาลว่าก่ออาชญากรรมสงครามต่อผู้อยู่อาศัยในแคว้นกูตาตะวันออก โดยระบุว่า การโจมตีทางอากาศอย่างหนักกำลังซ้ำเติมความทุกข์ยากที่เป็นผลมาจากการปิดล้อม
นับตั้งแต่ความขัดแย้งในซีเรียปะทุขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2011 จนถึงตอนนี้ผลพวงของมันได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 240,000 คน และทำคนหลายล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นฐานบ้านเกิด