เอเอฟพี/รอยเตอร์ - นักเรียนนายร้อยตำรวจอัฟกานิสถานต้องสังเวยชีวิตอย่างน้อย 20 นาย หลังมือระเบิดฆ่าตัวตายจุดชนวนบริเวณทางเข้าศูนย์ฝึกอบรมตำรวจของกรุงคาบูลเมื่อวันศุกร์(7ส.ค.) นับเป็นเหตุโจมตีนองเลือดถล่มเมืองหลวงแห่งนี้หนที่ 2 ในเวลาห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากเพิ่งเกิดรถบรรทุกบอมบ์ใกล้เขตทหาร ปลิดชีพ 15 ศพไปหมาดๆ
"มือโจมตีสวมเครื่องแบบตำรวจตอนที่เขาจุดชนวนระเบิด มีนักเรียนนายร้อยเสียชีวิต 20 นายและบาดเจ็บมากกว่า 20 คน" เจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับอาวุโสซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามบอกกับเอเอฟพี
เจ้าหน้าที่รายนี้บอกต่อว่ามือระเบิดปลอมตัวเข้าไปอยู่กลุ่มนักเรียนนายร้อยตำรวจที่ต่อแถวรอการตรวจค้นเพื่อเข้าในสถาบัน ส่วนเจ้าหน้าที่อีกคนยืนยันถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามยอดเหยื่อที่แท้จริงยังไม่ชัดเจน เนื่องจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงบอกกับรอยเตอร์ว่าอาจมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอย่างต่ำๆ 50 หรือ 60 คน
รายงานข่าวระบุว่าพบเห็นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงติดอาวุธหนักปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุ และรถฉุกเฉินหลายคันเปิดไซเรนดังลั่น ลำเลียงคนเจ็บนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
เหตุโจมตีดังกล่าวมีขึ้นระหว่างที่เหล่านักเรียนนายร้อยตำรวจกำลังเดินทางกลับเข้าศูนย์ฝึกอบรม หลังได้หยุด 2 วัน ถือเป็นการละเมิดมาตรการรักษาความปลอดภัยอันเข้มข้น ณ สถาบันฝึกอบรมชั้นหัวกระทิของกองกำลังความมั่นคงของอัฟกานิสถาน
หลังเกิดเหตุไม่นาน ซาไบฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกของตอลิบานให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีอ้างความรับผิดชอบว่าทางกลุ่มอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว
ปฏิบัติการโจมตีด้วยมือระเบิดฆ่าตัวตายนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากคนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ซุกซ่อนในรถบรรทุกใกล้เขตทหารแห่งหนึ่งในกรุงคาบูลเช้ามืดวันศุกร์(7ส.ค.) คร่าชีวิตผู้คน 15 ศพและบาดเจ็บนับร้อยคน ถือเป็นการโจมตีรุนแรงครั้งแรกต่อเมืองหลวงของอัฟกานิสถานนับตั้งแต่ตอลิบานประกาศแต่งตั้งนายมุลเลาะห์ อัคห์ทาร์ มันซูร์ เป็นผู้นำคนใหม่
สงครามระหว่างรัฐบาลอัฟกานิสถานที่ได้รับการหนุนหลังจากต่างชาติกับตอลิบานหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่นาโต้ถอนกำลังหน่วยประจัญบานเมื่อปีที่แล้ว และทหารของต่างชาติส่วนใหญ่ถอนทัพออกมาเกือบหมดแล้ว
กองกำลังความมั่นคงของอัฟกานิสถานต้องต่อสู้กับตอลิบาน ท่ามกลางการสนับสนุนอย่างจำกัดจากกองกำลังพันธมิตรในปีนี้ ขณะที่ผู้บัญชาการทหารสหรัฐฯรายหนึ่งเผยว่ามีทหารและตำรวจอัฟกันเสียชีวิตหรือไม่ก็หนีทัพราว 4,000 นายในแต่ละเดือน