เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการอิตาลี เดินหน้าตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินของพลเมืองแดนมะกะโรนี และชาวต่างชาติที่อาศัยในอิตาลีจำนวน 59,000 รายซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจ “จงใจเลี่ยงภาษี” หลังพบคนกลุ่มนี้มีการโยกย้ายถ่ายเทเงินไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “ซาน มาริโน” ซึ่งเป็นดินแดนปลอดภาษี และยังพบการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับเงินรายได้ที่แท้จริงกว่า 850 ล้านยูโร (ราว 32,640 ล้านบาท)
รายงานข่าวระบุว่า ปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีของพลเมืองแดนมะกะโรนี ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ฝังรากลึกในสังคมอิตาลีมาช้านาน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเป็นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี
ข้อมูลจากกระทรวงการคลังของอิตาลีระบุว่า ในแต่ละปีรัฐบาลอิตาลีต้องสูญเสียเงินรายได้จากผลพวงของการหลบเลี่ยงจ่ายภาษีรูปแบบต่างๆ คิดเป็นวงเงินไม่ต่ำกว่าปีละ 91,000 ล้านยูโร (ราว 3.49 ล้านล้านบาท)
ในเบื้องต้น ผลการสืบสวนของทางการอิตาลีพบการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติในบัญชีเงินฝากมากกว่า 1,050 บัญชีซึ่งต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับความพยายามในการหลบเลี่ยงภาษี
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและภาษีของอิตาลี ระบุว่า มีผู้ต้องสงสัยที่เป็นพลเมืองอิตาลีเกือบ 27,000 รายที่มีความเกี่ยวข้องในคดีนี้ รวมถึงชาวต่างชาติอีกราว 32,000 คน โดยพบว่าคนกลุ่มนี้มีการโยกย้ายถ่ายเทเงินออกจากอิตาลีเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปฝากในบัญชีที่ไปเปิดรอไว้ในซาน มารีโน
ทั้งนี้ เป็นที่คาดกันว่าเม็ดเงินที่ถูกโอนออกจากอิตาลีไปยังซาน มารีโน โดยคนกลุ่มนี้ในช่วงระหว่างปี 2009-2014 ที่ผ่านมา อาจมีจำนวนสูงถึง 33,000 ล้านยูโร (ราว 1. 26 ล้านล้านบาท)