เอเอฟพี - บรรดาญาติของผู้เคราะห์ร้ายจากเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ส ระบุในวันพฤหัสบดี (6 ส.ค.) ว่าพวกเขาหวังให้หลักฐานชิ้นแรกที่พิสูจน์ว่าเครื่องบินลำนี้ตกจะช่วยไขปริศนาของเหตุการณ์ทั้งหมดได้ในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม มีหลายรายที่โกรธและยังไม่เชื่อ
บรรดาครอบครัวของผู้เคราะห์ร้าย 239 ราย ต่างรอคอยกันมายาวนาน ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมปีที่แล้ว สำหรับหลักฐานชิ้นแรกที่จะบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่หายไประหว่างเส้นทาง กัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง
พวกเขาได้ดิ้นรนเพียรพยายามด้วยความต้องการที่จะรู้ว่ามีอะไรที่ถูกปกปิดไว้ พร้อมกับความหวังอันแสนริบหรี่ว่าคนบนเครื่องบินอาจจะยังมีชีวิตอยู่ โดยมีการวิจารณ์มาเลเซียอย่างหนักสำหรับการรับมือกับเรื่องนี้
ผู้ที่อยู่บนเครื่องบินส่วนใหญ่เป็นชาวจีน บรรดาญาติจำนวนมากยังคงปฏิเสธที่จะเชื่อว่าคนในครอบครัวของพวกเขาได้เสียชีวิตไปกับเครื่องบินลำนั้นแล้ว แม้ว่านายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค จะประกาศว่าซากชิ้นส่วนที่พบบนเกาะเรอูนียงจะเป็นของเที่ยวบิน MH370 ก็ตาม
“ผมไม่เชื่อข้อมูลล่าสุดนี่หรอก พวกเขาโกหกเรามาตั้งแต่ต้นแล้ว ผมรู้ว่าลูกสาวผมยังอยู่ที่ไหนสักแห่งข้างนอกนั่น แต่พวกเขาไม่ยอมบอกความจริงกับเรา” จาง หยงหลี ผู้ที่มีลูกสาวอยู่บน MH370 บอกนักข่าว
เปา หลันฟาง ที่มีหลานชายอยู่บน MH370 ได้บอกนักข่าวว่า “ทุกคนล้วนโกหก” ก่อนที่จะล้มฟุบลงไปที่พื้นแล้วร้องไห้บริเวณนอกสำนักงานมาเลเซียแอร์ไลน์สในปักกิ่ง
“ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เจอเขาอีกครั้ง” เปา ที่อยู่ในวัย 63 ปี กล่าวทั้งน้ำตา
บางครอบครัวได้บอกว่า การยืนยันครั้งนี้ยังไม่เพียงพอที่จะฟันธงในส่วนที่เหลือ พร้อมทั้งต้องการที่จะรู้ว่าทำไมเครื่องบินลำนั้นจึงออกนอกเส้นทาง โดยบินอยู่ได้นานหลายชั่วโมงก่อนที่ระบบสื่อสารและการตามรอยจะถูกปิดลง
รัฐบาลของนาจิบซึ่งถูกกล่าวหาโดยบรรดาญาติว่าเป็นไปได้ที่จะปกปิดบางอย่างและไม่สนใจที่จะเยียวยาครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย ไม่ได้ให้ข้อมูลการวิเคราะห์ซากชิ้นส่วนที่เป็นเบาะแสใดๆ ถึงสาเหตุการสูญหายไปของเครื่องบินลำนี้
“ตอนนี้ฉันอยากจะรู้ว่าส่วนลำตัวเครื่องบินอยู่ที่ไหน เพื่อที่เราจะได้ร่างของผู้โดยสารและกล่องดำ แล้วเราก็จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่นั้นแล้วเราก็จะปิดคดีได้สมบูรณ์” จากีตาร์ กอนซาเลส หญิงชาวมาเลเซียที่เป็นภรรยาของแพทริก โกเมส หัวหน้าสจ๊วตของ MH370
จี ซูบรามาเนียม ชายชาวมาเลเซียที่เสียลูกชาย บอกว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนต้องตามหาชิ้นส่วนอื่นๆ กันอีก
“เราอยากให้ทางการขยายการค้นหาส่วนลำตัวเครื่องบินและผู้โดยสารในพื้นที่ใกล้กับแอฟริกา ที่มีการพบเศษซากชิ้นส่วน” เขาบอกเอเอฟพี
ซารา วีคส์ น้องสาวของผู้โดยสารชาวนิวซีแลนด์ที่ชื่อ พอล วีคส์ ยินดีกับข่าวที่มีการพบซากชิ้นส่วนเสียที อย่างไรก็ตาม เธอได้บอกว่ารู้สึกแย่ที่ได้รับรู้การยืนยันครั้งนี้จากสื่อมวลชนแทนที่จะเป็นทางการมาเลเซีย
มีผู้โดยสารชาวออสเตรเลีย 6 คนบนเครื่องบินลำนั้น อาทิ ร็อดนีย์กับแมรี เบอร์โรว์ จากรัฐควีนส์แลนด์ ที่ไปฉลองการเกษียณของพวกเขาในวันหยุดตามแผนที่วางไว้นานแล้ว
จอร์จ เบอร์โรว์ พ่อของร็อดนีย์ บอกว่า เขาหวังจะได้รับการยืนยันว่าชิ้นส่วนที่พบนี้มาจากเครื่องบินลำที่ลูกเขาโดยสาร แล้วเขาก็อยากรู้ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่สำหรับ อีเลน ชิว ภรรยาของลูกเรือรายหนึ่งบนเที่ยวบิน MH370 การประกาศครั้งล่าสุดนี้ทำให้เธอโล่งใจได้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ศพของสามีฉันอยู่ไหน เจอข้าวของที่เป็นของผู้โดยสารบ้างไหม ไม่มีเลย พวกเขาเจอแค่ซากชิ้นส่วนเครื่องบิน ไม่ล่ะ สำหรับฉันเรื่องนี้มันยังปิดคดีไม่ได้” เธอบอกเอเอฟพี