เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน มีแผนเสริมความแข็งแกร่งทางยุทธศาสตร์ให้กับ “กองเรือทะเลดำ” ของตน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจาก องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาเป็นหัวหอกและกำลังแผ่ขยายอิทธิพลอย่างสำคัญเข้าสู่ยุโรปตะวันออก ภูมิภาคที่เปรียบเสมือน “สนามหลังบ้าน” ของรัสเซียมาช้านาน
รายงานข่าวล่าสุดซึ่งอ้างรายงานของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ ( 27 ก.ค.) ระบุว่า รัฐบาลมอสโกภายใต้การนำของวลาดิมีร์ ปูตินมีแผนเร่งปรับปรุงและเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางยุทธศาสตร์ให้กับกองทัพเรือของตนโดยเฉพาะในส่วนที่ประจำการอยู่ใน “ทะเลดำ” หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “กองเรือทะเลดำ” ทางภาคใต้ของประเทศ
รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า รัสเซียต้องเร่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองเรือทะเลดำของตนทั้งในด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือภัยคุกคามจากการรุกคืบขยายอิทธิพลมุ่งสู่ตะวันออก (eastward expansion) ของนาโตที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นแกนนำ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ (26 ก.ค.) ที่ผ่านมา ดมิตรี โรโกซิน รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซียซึ่งกำกับดูแลสายงานด้านความมั่นคง ออกมาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวโดยระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้ให้ความเห็นชอบต่อแผนปฏิรูปยุทธศาสตร์ทางทะเลฉบับใหม่แล้ว และว่าแผนฯดังกล่าวนี้จะนำไปสู่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองเรือทะเลดำของรัสเซีย ให้เป็นหนึ่งในกองกำลังทางเรือที่น่าเกรงขามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวด้านการทหารในกรุงมอสโก ที่ระบุว่า นอกเหนือจากแผนเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กองกำลังทางเรือในทะเลดำแล้ว ทางการรัสเซียยังเตรียมเพิ่มบทบาททางทะเลของตน ในน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติก รวมถึงในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วยเช่นกัน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซียมีขึ้นหลังจากช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ทางนาโตซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นแกนนำได้ประกาศตั้งฐานทัพชั่วคราว รวมถึง “กองกำลังเคลื่อนที่เร็ว” ที่นำโดยทหารอเมริกันใน 6 ประเทศแถบยุโรปตะวันออก โดยอ้างว่าเพื่อรับมือภัยคุกคามจากรัสเซีย
“ในเมื่อสหรัฐฯ และนาโต ยังคงเดินหน้ารุกคืบเข้าสู่ยุโรปตะวันออกอย่างต่อเนื่อง จึงมิใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจนัก หากรัสเซียจะตอบโต้กลับด้วยการขยายอิทธิพลทางเรือเข้าไปในมหาสมุทรแอตแลนติกและน่านน้ำทางตะวันตกอื่นๆ บ้าง” ดมิตรี โรโกซิน รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซียกล่าวเสริม
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นอกเหนือจากแผนปฏิรูปยุทธศาสตร์ทางเรือในทะเลดำแล้วรัฐบาลมอสโกกำลังเร่งจัดทำแผนปฏิรูปกองทัพอย่างขนานใหญ่ด้วยการปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ทันสมัยซึ่งจะส่งผลให้มีการนำอาวุธใหม่ๆ เข้าประจำการในกองทัพต่างๆ ของรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ภายในปี ค.ศ. 2020