เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - น้ำมันขยับลง 3 วันติดเมื่อวันศุกร์(24ก.ค.) หลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนซ้ำเติมความกัวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด ปัจจัยนี้ประกอบกับข้อมูลขายบ้านสหรัฐฯฉุดวอลล์สตรีทปิดลบแรง ขณะที่ทองคำยังลงต่อเนื่อง ตามความคาดหมายว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 31 เซนต์ ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 65 เซนต์ ปิดที่ 54.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลการผลิตของจีนที่ออกมาอ่อนแออย่างไม่คาดคิด กระพือความกังวลรอบใหม่ต่อภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลกและผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่
บริษัทมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนกรกฎาคม ลดลงแตะ 48.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน จาก 49.4 ในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 แสดงถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิต
ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนดังกล่าวประกอบกับยอดขายบ้านชะลอตัวลงอย่างรุนแรงในอเมริกา ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(24ก.ค.) ปิดลบพอสมควร แม้มีผลประกอบการที่น่าพึงพอใจของบริษัทยักษ์ใหญ่
ดาวโจนส์ ลดลง 163.39 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,568.53 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 22.50 จุด (1.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,079.65 จุด แนสแดค ลดลง 57.78 จุด (1.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,088.63 จุด
ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงก่อแรงกดดันแก่สมาชิกดาวโจนส์อย่าง เชฟรอนและเอ็กซอนโมบิล ซึ่งปรับลดร้อยละ 2.5 และ 1.5 ตามลำดับ ขณะเดียวกันวอลล์สตรีท ยังได้รับผลกระทบจากตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนมิถุนายน
ความเคลื่อนไหวของวอลล์สตรีทมีขึ้นแม้ว่าหุ้นของอเมซอนจะพุ่งทะยานถึงร้อยละ 10 หลังจากบริษัทแห่งนี้ปัดเป่าความคาดหมายว่าจะมีผลประกอบการขาดทุนในไตรมาส 2 โดยรายงานหลังปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดี(23ก.ค.) ว่ามีกำไรสุทธิ 92 ล้านดอลลาร์และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20
ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์(24ก.ค.) ปิดลบต่อเนื่อง ท่ามกลางความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,085.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์