เอเอฟพี - กรีซเมื่อวันศุกร์(24ก.ค.) ผ่อนคลายมาตรการควบคุมเงินทุนลงบางส่วนสำหรับช่วยปลดเปลื้องบริษัทต่างๆที่ทำธุรกิจอยู่ต่างแดน หลังบังคับใช้เมื่อเกือบ 1 เดือนก่อน เพื่อปกป้องประเทศที่หนี้สินล้นพ้นตัวแห่งนี้จากการล่มสลายทางการเงิน
นายยานนิส สตูร์นาราส ประธานธนาคารกลางกรีซเผยว่าเหล่าธนาคารพาณิชย์ของประเทศ ซึ่งการบริการของพวกเขาถูกจำกัดอย่างรุนแรงนับตั้งแต่มาตรการควบคุมเงินทุนถูกบังคับใช้ในวันที่ 29 มิถุนายน เวลานี้ได้รับอนุญาตให้ชำระเงินแก่ประเทศอื่นๆ จาก 50,000 ยูโร เป็นสูงสุด 100,000 ยูโร
"ในช่วง 10 วันข้างหน้า เราจะคลี่คลายปัญหาที่เกิดจากมาตรการควบคุมเงินทุน" สตูร์นาราส บอกหลังจากหารือกับตัวแทนนายจ้างและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลัง
ในฐานะหนึ่งในมาตรการที่บังคับใช้เพื่อหยุดยั้งความตื่นตระหนก ป้องกันไม่ให้เงินไหลออกจากระบบการเงินของกรีซ เหล่าบริษัทต่างๆถูกกำหนดให้ต้องขออนุมัติจากคณะกรรมาธิการรัฐบาลก่อนถึงสามารถโอนเงินต่างประเทศได้ กระบวนการที่ช้าเกินไปสำหรับเหล่าซัพพลายเออร์ที่ต้องการให้ชำระเงินล่วงหน้า
นายสตูร์นาราส เผยต่อว่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการสำหรับอนุมัติกาจ่ายเงินของบริษัทต่างๆแก่ประเทศอื่นๆในทุกธนาคารเพื่อเร่งรัดการเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการรัฐบาลกลางอีกทางหนึ่งด้วย
แม้ว่าการบริการของธนาคารต่างๆยังถูกจำกัด แต่นายสตูร์นาราส ประกาศว่าสถานการณ์เป็นที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง และระบุระดับการอนุมัติชำระเงินต่างประเทศที่รัฐบาลอนุมัติช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ใกล้เคียงอย่างยิ่งกับช่วงภาวะปกติของเศรษฐกิจกรีซ
ธนาคารกลางเผยว่าระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน จนถึง 23 กรกฎาคม รัฐบาลอนุมัติให้บริษัทต่างๆในทุกภาคส่วน ไล่ตั้งแต่อาหาร พลังงาน เภสัชกรรมและวัตถุดิบ ชำระเงินต่างประเทศเป็นจำนวนกว่า 1,500 ล้านยูโร หลังจากก่อนหน้านี้เหล่าบริษัทต่างๆของกรีซ แสดงความกังวลต่อมาตรการควบคุมเงินทุน ซึ่งบังคับใช้โดยไม่ได้กำหนดวันหมดอายุ โดยคร่ำครวญว่าพวกเขาเสี่ยงเจอปัญหาขาดแคลนหากไม่สามารถเติมสต๊อกจากซัพพลายเออร์ต่างชาติ
ธีโอโดรอส เฟสซาส ประธานสหพันธ์นายจ้างของกรีซ กล่าวหลังจากพบปะกับธนาคารกลางว่าตัวเลขการนำเข้าของกรีซมีมูลค่าราว 40,000 ล้านยูโรต่อปี หรือประมาณ 150 ล้านยูโรต่อวัน ส่วนประธานหอการค้าเอเธนส์ระบุมาตรการควบคุุมเงินทุน ซึ่งทำให้ธนาคารต่างๆต้องปิดบริการนาน 3 สัปดาห์ ก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจกรีซราวๆ 3,000 ล้านยูโร