แผนแก้ปัญหาราคาตกยังไม่โดนใจ เกษตรกรฝรั่งเศสพากันปิดถนนเข้าเมืองลียง

เอเอฟพี - เกษตรกรชาวฝรั่งเศสหลายร้อยคนที่กำลังโกรธแค้น ได้ใช้รถแทรกเตอร์ปิดกั้นถนนหลายสายในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ที่เป็นเส้นทางมุ่งหน้าไปสู่เมืองลียง เนื่องจากไม่พอใจแผนมูลค่า 600 ล้านยูโรของรัฐบาลที่จะนำมาใช้บรรเทาหายนะทางการเงินของเกษตรกร ซึ่งเกิดจากราคาผลผลิตตกต่ำ

การเผชิญกับวิกฤตทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น ทำให้ประธานาธิบดีฟรังซัวร์ โอลองด์ ต้องเพิ่มตารางงานแบบทันควัน โดยเขาจะไปเมืองดิฌงเพื่อพบกับบรรดาเจ้าหน้าที่ของสหภาพแรงงานเกษตรกร

ช่วงที่ผ่านมา บรรดาเกษตรกรได้พากันปิดกั้นถนนที่จะเข้าสู่เมืองและท่าเรือต่างๆ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวอย่าง “มง แซ็ง มิเชล” เพื่อให้รัฐบาลหันมาใส่ใจปัญหาของพวกเขา ซึ่งมีหลายรายบอกว่าจวนเจียนจะล้มละลายเต็มที

ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่มาผสมกัน เช่น การเปลี่ยนแปลงนิสัยการกินของผู้คน, ความต้องการจากจีนที่ลดลง, รัสเซียเลิกซื้อขายสินค้าของตะวันตกอันเนื่องมาจากวิกฤตยูเครน ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ราคาผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญอย่างเนื้อวัว เนื้อหมู นม มีราคาที่ตกต่ำลง

ด้วยการตระหนักถึงความรุนแรงของพลังการล็อบบี้โดยกลุ่มเกษตรกรในฝรั่งเศส รัฐบาลแดนน้ำหอมได้ตอบสนองในวันพุธด้วยแผนช่วยเหลือฉุกเฉินมูลค่า 600 ล้านยูโร ที่เป็นการลดหย่อนภาษีและค้ำประกันเงินกู้

แต่ดูเหมือนว่าแผนนี้จะยังไม่ถึงระดับที่เกษตรกรคาดหวังไว้ แม้จะมีบางรายที่เลิกประท้วงปิดถนน แต่คนอื่นๆ ได้ยกระดับการประท้วงให้หนักข้อมากขึ้น

เหล่าเกษตรกรได้นำรถแทรกเตอร์มาจอดไว้บนถนนสำคัญๆหลายสายที่มุ่งไปสู่เมืองลียง พร้อมทั้งลั่นวาจาว่าจะปิดกั้นหรือถ่วงการเดินทางเข้าสู่เมืองนี้ให้ช้าลง ไปจนถึงคืนวันพฤหัสบดีเป็นอย่างน้อย

สหภาพแรงงานเกษตรกร FNSEA ที่เป็นแกนหลักการประท้วงนั้นบอกว่าแผนช่วยเหลือของรัฐบาลที่ออกมานั้นยังไม่เพียงพอ เป็นเพียงแค่การใช้พลาสเตอร์ปิดแผลระยะสั้นเท่านั้น ไม่ใช่การแก้ไขโครงสร้างของปัญหาในอุตสาหกรรมการเกษตรแบบระยะยาว

นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ ได้กล่าวกับสถานีวิทยุของฝรั่งเศสเมื่อช่วงรุ่งสางวันพฤหัสบดีว่า เป็นเรื่องที่สำคัญในการทำให้ราคาเนื้อวัวขยับตัวสูงขึ้น

เขาได้เรียกร้องให้ทุกคนมีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งออกมาด่าบรรดาโรงฆ่าสัตว์และอุตสาหกรรมกระบวนการผลิตอาหาร ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกษตรกรโทษว่าเป็นตัวการทำราคาไม่กระเตื้อง