เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันศุกร์(17ก.ค.) ทรงตัวในกรอบแคบๆ ท่ามกลางดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและความกังวลต่ออุปทานล้นตลาดจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ส่วนแนสแดคทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 2 วันติด จากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของกูเกิล ขณะที่ทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 5 ปี
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2 เซนต์ ปิดที่ 50.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดลบ 4 วันติด แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 57.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นับตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์เป็นต้นมา สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ปรับลดลงมาราวๆ 2 บาร์เรล ยืนยันแนวโน้มขาลงในเดือนกรกฎาคม หลังทรงตัวอยู่ราวๆ 60 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้
ความกังวลต่ออุปทานล้นตลาดยังก่อแรงกดดันต่อตลาด หลังอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจบรรลุข้อตกลงจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน ที่อาจนำมาซึ่งการยกเลิกมาตรการตัดลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ย้ำว่าเฟดมีแผนขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งจะถือว่าเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(17ก.ค.) ปิดผสมผสาน โดยกูเกิลดันให้แนสแดคแตะระดับสูงสุดตลอดกาลเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ทว่าหุ้นกลุ่มพลังงานฉุดให้ดาวโจนส์ขยับลง
ดาวโจนส์ ลดลง 33.80 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,086.45 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.35 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,126.64 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 46.96 จุด (0.91 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,210.14 จุด
หุ้นของกูเกิลทะยานถึง 12.26 เปอร์เซ็นต์ ปิดสูงสุดตลอดกาลที่ 699.62 ดอลลาร์ต่อหุ้น หลังรายงานรายได้จากการขายโฆษณาเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นับเป็นการขยับขึ้นวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ มากสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2008
ด้านเฟซบุุ๊ค ก็พุ่งขึ้น 4.53 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 94.97 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ด้วยความหวังว่าจะเจริญรอยตามยอดรายได้จากการขายโฆษณาของกูเกิล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับลง จำกัดการขยับขึ้นของตลาดหุ้นอย่างกว้างขวาง โดยดัชนีพลังงานเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1.07 เปอร์เซ็นต์ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2009
ส่วนราคาทองคำเมื่อวันศุกร์(17ก.ค.) ปิดลบ 7 วันติด แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี ขณะที่ตลาดทบทวนข่าวข้อมูลทองคำสำรองของจีนที่เผยแพร่ออกมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 12.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,131.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงเทขายมีขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนเผยแพร่ปริมาณสำรองของประเทศเป็นครั้งแรกในรอบราวๆ 6 ปี โดยบอกว่าปริมาณทองคำสำรองของประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.32 ล้านออนซ์(1,658 เมตริกตัน) หรือเพิ่มขึ้น 57% จากระดับ ณ สิ้นเดือนเม.ย. 2009 ซึ่งอยู่ที่ 1,054 เมตริกตัน