ยุโรปตั้งโต๊ะถกเงินกู้ฉุกเฉินอุ้มกรีซ หลังสภาเอเธนส์ผ่านกม.ปฏิรูปมหาโหด

เอเจนซีส์ - “ยุโรป”นัดถกเรื่องจัดเงินกู้ระยะสั้นอัดฉีดให้ “เอเธนส์” เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งถึงกำหนดต้นสัปดาห์หน้า ขณะที่ “อีซีบี” ก็ตั้งโต๊ะหารือมาตรการช่วย “แบงก์กรีซ” ภายหลัง “นายกฯซีปราส” ประสบความสำเร็จในการจับมือฝ่ายค้านในรัฐสภา ผ่านมาตรการปฏิรูปสุดโหดตามข้อเรียกร้องของคณะเจ้าหน้าระหว่างประเทศแล้วเมื่อคืนวันพุธ (15 ก.ค.) ถึงแม้เผชิญการคัดค้านหนักจากสมาชิกขบถกลุ่มใหญ่ในพรรคไซรีซาของเขาเอง รวมทั้งมีกลุ่มหัวรุนแรงที่ไม่พอใจมาตรการรัดเข็มขัดได้รวมตัวประท้วงและปะทะกับตำรวจบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา

การลงมติของรัฐสภากรีซเพื่อผ่านกฎหมายปฏิรูปอันเข้มงวด แลกกับการได้รับอัดฉีดฉุกเฉินจากยุโรป ตลอดจนเป็นการปูทางให้เริ่มการเจรจารายละเอียดแพกเกจเงินกู้ช่วยไม่ให้กรีซล้มละลายก้อนที่ 3 มีขึ้นตอนกลางดึกวันพุธ โดยนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนได้ 229 เสียงจากทั้งรัฐสภา 300 เสียง ทั้งนี้มาตรการปฏิรูปสุดโหดที่สำคัญๆ บางข้อ เป็นต้นว่าการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จะมีผลบังคับใช้ทันที

ในการโหวตคราวนี้ มีสมาชิกรัฐสภาพรรคไซรีซาถึง 32 คนออกเสียงคัดค้าน 6 คนงดออกเสียง และอีก 1 คนไม่เข้าประชุม โดยในสมาชิกขบถเหล่านี้ เป็นบุคคลระดับรัฐมนตรีในรัฐบาลซีปราส 4 คน ซึ่ง 1 คนยื่นใบลาออกแล้ว นอกจากนั้นยังประกอบด้วยประธานรัฐสภา และอดีตรัฐมนตรีคลัง ยานิส วารูฟากิส ที่กล่าววิจารณ์ว่า เงื่อนไขล่าสุดของเจ้าหนี้เปรียบได้กับสนธิสัญญาแวร์ซายส์ปี 1919 ซึ่งพวกสัมพันธมิตรบังคับเอากับเยอรมนีที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยมีการเรียกค่าปฏิกรรมสงครามสูงเกินกว่าที่เยอรมนีจะจ่ายไหว

หลังการลงมติ ซีปราสได้กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ร่วมสนับสนุนมาตรการปฏิรูป และยอมรับกับรัฐสภาว่า จำเป็นต้องยอมรับเงื่อนไขของเจ้าหนี้ทั้งที่ไม่เชื่อมั่น และทราบว่าเงื่อนไขดังกล่าวเป็นอันตรายต่อกรีซ แต่เนื่องจากเป็นทางเลือกเดียวเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศล้มละลาย ซึ่งจะเป็นหายนะร้ายแรงกว่า

เป็นที่คาดว่า หลังจากนี้ซีปราสจะปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อปลดสมาชิกที่คัดค้านมาตรการปฏิรูปออก อย่างไรก็ดี เขายืนยันว่า จะไม่มีการยุบสภาจัดการเลือกตั้งก่อนวาระ

แต่ถึงแม้รัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการปฏิรูปทันเส้นตายที่เจ้าหนี้กำหนดเช่นนี้ เอเธนส์ก็ยังต้องรอวัดใจฝ่ายนิติบัญญัติของหลายชาติสมาชิกยูโรโซน ซึ่งจะพิจารณาว่าจะรับรองข้อตกลงล่าสุดกับกรีซนี้หรือไม่ โดยเฉพาะรัฐสภาเยอรมนีที่คาดว่าจะมีการโหวตในวันศุกร์ (17)

วูล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี และเป็นหนึ่งในผู้ที่วิจารณ์กรีซรุนแรงที่สุดในยูโรโซน ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุเมืองเบียร์ว่า เขายังคงเชื่อว่า เอเธนส์ควรออกจากยูโรโซนเป็นการชั่วคราวมากกว่า จะได้ใช้เวลาช่วงดังกล่าวในการต่อรองลดหนี้ ทั้งนี้เขาเห็นว่าสนธิสัญญาของอียูไม่อนุญาตให้มีการลดหนี้แก่ชาติสมาชิก ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นกรีซก็ยากที่จะแบกรับภาระหนี้สินซึ่งมีอยู่

อย่างไรก็ดี วูล์ฟกังยืนยันว่า จะโหวตสนับสนุนให้เริ่มเปิดเจรจาโปรแกรมช่วยเหลือกรีซก้อนที่ 3 ในการประชุมสภาเยอรมนี

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เป็นผู้จุดพลุประเด็นการลดภาระหนี้สินให้กรีซ โดยในรายงานวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้อย่างยั่งยืนของกรีซ ไอเอ็มเอฟระบุว่า เจ้าหนี้ยุโรปต้องยอมให้กรีซมีระยะเวลาปลอดหนี้สำหรับเงินกู้ในปัจจุบันและในอนาคตเป็นเวลา 30 ปี จากนั้นจึงเริ่มให้ผ่อนชำระเป็นช่วงเวลาอันยาวนาน ไม่เช่นนั้นก็ต้องโอนเงินสดก้อนใหญ่เข้างบประมาณของกรีซเป็นรายปี หรือไม่ก็ต้องยอมลดหนี้เป็นจำนวนมากให้แก่กรีซ

ทว่า ทางเลือกทั้งหมดของไอเอ็มเอฟไม่เป็นที่สบอารมณ์ของเยอรมนีและเจ้าหนี้อื่นๆ ในยูโรโซน ที่ไม่อยากชี้แจงกับผู้เสียภาษีในประเทศของตนว่า เงินที่ให้เอเธนส์ยืมไปจะไม่ได้กลับคืนมา

ในวันพฤหัสบดี (16) คณะมนตรีบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีนัดหารือ ซึ่งถูกคาดหมายว่า จะมีการออกมติอัดฉีดสภาพคล่องฉุกเฉินเพิ่มเติมให้ธนาคารกรีซ ถือเป็นก้าวแรกที่จะปูทางให้แบงก์กรีซกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากปิดทำการมาเกือบสามสัปดาห์

วันเดียวกัน รัฐมนตรีคลังยุโรปมีนัดหมายประชุมทางไกลเพื่อตกลงเกี่ยวกับแผนการปล่อยเงินกู้ระยะสั้น 7,000 ล้านยูโร เพื่อให้กรีซนำไปชำระหนี้ที่ติดค้างอีซีบีและถึงกำหนดจ่ายในวันจันทร์หน้า (20)

เงินก้อนนี้จะมาจากสมาชิกทั้ง 28 ประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) แม้ประเทศที่ไม่ได้อยู่ในยูโรโซนอย่างอังกฤษและสาธารณรัฐเช็ก ไม่เต็มใจแต่ก็ยินยอมโดยดี หลังจากมีการประนีประนอมให้ใช้กองทุนของยูโรโซนเพื่อรับประกันว่า สมาชิกอียูจะร่วมลงขันอัดฉีดกรีซในจำนวนจำกัดเท่านั้น

ในตอนเช้าวันพฤหัสบดีที่กรุงเอเธนส์ พนักงานกวาดถนนเก็บกวาดซากความเสียหายจากการปะทะกันระหว่างกลุ่มหัวรุนแรงที่ต่อต้านมาตรการเงินกู้กับตำรวจปราบจลาจลเมื่อคืนวันพุธในบริเวณจัตุรัสซินแท็กมา หน้าอาคารรัฐสภา

รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงขว้างระเบิดขวดและก้อนหินใส่ตำรวจที่ตอบโต้กลับไปด้วยก๊าซน้ำตา