สหรัฐฯส่งคืน “โบราณวัตถุ” ให้อิรัก หลังยึดได้ระหว่างปฏิบัติการปลิดชีพ ผบ.ไอเอสในซีเรีย

รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ส่งคืนโบราณวัตถุให้อิรักในวันนี้ (15) หลังจากยึดมาได้ในระหว่างปฏิบัติการจู่โจมนักรบกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย พร้อมระบุว่าของที่ถูกขโมยมาเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ว่ากลุ่มไอเอสกำลังจัดหาเงินทุนทำสงครามจากการลักลอบค้าสมบัติโบราณ

โบราณวัตถุของอิรักเหล่านี้ถูกหน่วยพิเศษของสหรัฐฯ ยึดมาได้ระหว่างปฏิบัติการล่าตัวผู้บัญชาการรายหนึ่งของกลุ่มไอเอสที่รู้จักกันในชื่อว่า อาบู ไซยาฟ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สมบัติเหล่านี้ประกอบด้วยตราประทับทรงบอกโบราณ, เครื่องปั้นดินเผา, กำไลโลหะ, อัญมณีอื่นๆ และเศษแก้วจากแจกันสี นอกจากนี้ยังมีเหรียญอิสลามยุคต้นด้วย

กลุ่มไอเอสซึ่งเป็นกลุ่มอิสลามิสต์นิกายสุหนี่สุดโต่ง ได้ทำการปล้นสะดมสถานที่โบราณคดีที่สำคัญที่สุดบางแห่งในตอนเหนือของอิรัก และโพสต์วิดีโอขณะนักรบของพวกเขากำลังทำลายอนุสรณ์สถานยุคก่อนอิสลามที่พวกเขามองว่าเป็นรูปเคารพ

เจ้าหน้าที่อิรักไม่สามารถประเมินเสียหายทั้งหมดที่สถานที่ดังกล่าวภายใต้การควบคุมของกลุ่มไอเอส แต่พวกเขากล่าวว่า คลิปวิดีโอการทำลายดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความจริงที่ว่ากลุ่มไอเอสกำลังลักลอบค้าขายโบราณวัตถุเพื่อสั่งสมเงิน

“นี่เป็นวัตถุพยานชุดแรกที่บ่งชี้ว่า พวกดาเอชกำลังขายโบราณวัตถุเพื่อจัดหาทุนให้กับกิจกรรมของพวกเขา” สจวต โจนส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าว โดยเรียกกลุ่มไอเอสด้วยชื่อย่อภาษาอาหรับ

“เป้าหมายของพวกเขาคือการขายโบราณวัตถุเหล่านี้ในตลาดมืดทั่วโลก” เขาบอกกับผู้สื่อข่าวที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของอิรักในกรุงแบกแดด ซึ่งมีการส่งมอบสมบัติเหล่านี้กลับคืน

อาบู ไซยาฟ ซึ่งถูกสังหารในการโจมตีดังกล่าว ถูกอธิบายโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในตอนนั้นว่าเป็น ผู้บัญชาการของกลุ่มไอเอสที่รับผิดชอบการขายน้ำมันและแก๊สของกลุ่ม

เขาถูกสังหารที่เมืองเดอีร์ อัล-ซอร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้กับแหล่งน้ำมันหลักของซีเรีย และอยู่ห่างจากจุดผ่านแดนซีเรีย-อิรักซึ่งกลุ่มไอเอสประกาศสถาปนาดินแดนคอลิฟะห์คร่อมอยู่ราว 100 กิโลเมตร

นักรบกลุ่มไอเอสทำลายพระราชวังโบราณยุคจักรวรรดิอัสซีเรีย และพระราชวังยุคเกรโก-โรมันในตอนเหนือของอิรัก รวมถึงนครคอร์ซาบัด เมืองหลวงอายุ 2,700 ปีของจักรวรรดิอัสซีเรีย, เมืองนิมรุด และเมืองเนนีเวห์ และโบราณสถานกลางทะเลทรายที่เมืองฮาตรา

เจ้าหน้าที่อิรักร้องขอให้นานาชาติช่วยปกป้องสถานที่เหล่านี้ พร้อมทวงถามว่าเหตุใดกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งคอยทิ้งระเบิดใส่ที่มั่นและขบวนรถของกลุ่มไอเอสทั่วอิรักและซีเรีย จึงไม่จัดส่งกำลังทางอากาศมาปกป้องทรัพย์สมบัติโบราณเหล่านี้

โจนส์กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรไม่มีกองกำลังภาคพื้นดิน และการใช้การโจมตีทางอากาศกับเป้าหมายเช่นนั้นอาจสร้างความเสียหายต่อมรดกอันล้ำค่าดังกล่าวของอิรัก