เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ผู้แทนระดับสูงของวอชิงตันเผยในวันอาทิตย์ (8 ก.พ.) ว่า กองทหารอิรักจะเริ่มบุกภาคพื้นดินครั้งใหญ่เพื่อขับไล่กองกำลังอิสลามิสต์สุดโต่ง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ ขณะที่ในกรุงแบกแดดเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายสังหารประชาชน 14 คนเมื่อวันจันทร์ (9) หลังรัฐบาลอิรักประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกไปหมาดๆ ทางด้านจอร์แดนระบุว่าได้ปูพรมถล่มทางอากาศต่อนักรบหัวรุนแรงกลุ่มนี้เฉียด 60 ระลอกนับจากปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อแก้แค้นให้แก่นักบินของตนที่ถูกเผาทั้งเป็น
จอห์น อัลเลน อดีตนายทหารนาวิกโยธินระดับพลเอก เวลานี้ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในกลุ่มพันธมิตรทั่วโลกต่อต้านกลุ่มไอเอส ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเปตราของทางการจอร์แดนว่า กองทหารอิรักจะเริ่มการบุกภาคพื้นดินครั้งใหญ่เพื่อรุกไล่นักรบญิฮัดหัวรุนแรงกลุ่มนี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยการปฏิบัติการดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนด้วยการโจมตีทางอากาศจากกลุ่มพันธมิตร ซึ่งประกอบด้วยหลายชาติตะวันตกและอาหรับ
ขณะนี้ กองทัพอิรักได้เริ่มต้นการปฏิบัติการแล้วในพื้นที่ใกล้ๆ กรุงแบกแดด รวมทั้งจังหวัดดิยาลา และซาลาเฮดดิน ที่อยู่ทางเหนือของเมืองหลวง
ไอเอสนั้นเปิดฉากโจมตีและเข้ายึดครองพื้นที่กว้างขวางทางตอนเหนือและตะวันตกของอิรักตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และแม้ว่าต่อจากนั้นจะถูกตีโต้ยันกลับ แต่ยังสามารถทำการโจมตีรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
ในวันจันทร์ เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในย่านคาดิมิยาห์ ซึ่งเป็นชุมชนของชาวชีอะต์ในกรุงแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 43 คน ถือเป็นเหตุระเบิดฆ่าตัวตายครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของอิรักในรอบ 3 วัน ครั้งก่อนหน้านี้คือเมื่อวันเสาร์ (7) ที่มีการโจมตีภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านจาดิดา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย
แม้ยังไม่มีกลุ่มใดแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดเมื่อวันจันทร์ แต่ที่ผ่านมาการระเบิดฆ่าตัวตายส่วนใหญ่มักเป็นฝีมือของมุสลิมหัวรุนแรงนิกายสุหนี่ในอิรัก ซึ่งรวมถึงไอเอส
ทางด้านกรุงอัมมาน พล.อ.อ.มานซูร์ อัล-โจบูร์ ผู้บัญชาการทหารอากาศของจอร์แดน แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า จอร์แดนได้เข้าโจมตีทางอากาศต่อไอเอสรวม 56 ระลอก นับจากวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา (5) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ
จอร์แดนนั้นประกาศตอบโต้อย่างสาสม หลังจากไอเอสเผยแพร่คลิปเผานักบินของตนทั้งเป็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โจบูร์แจกแจงว่า ในวันแรกของปฏิบัติการล้างแค้นให้แก่นักบินมาอัซ อัล-คัสซัสเบห์ จอร์แดนได้ทำลายเป้าหมาย 19 แห่ง และนับจากวันพฤหัสบดี สามารถทำลายเป้าหมายหลายสิบแห่ง เช่น ค่ายพัก ค่ายฝึก กระสุน และคลังอาวุธ รวมแล้วสามารถทำลายกำลังรบของกลุ่มก่อการร้ายนี้ได้ 20%
ผู้บัญชาการทหารอากาศสำทับว่า นับจากจอร์แดนเข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตร มีนักรบไอเอสถูกสังหารไปแล้วมากกว่า 7,000 คน
ขณะเดียวกัน จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยในที่ประชุมความมั่นคงในมิวนิกช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรที่เริ่มต้นที่อิรักในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และขยายผลสู่ซีเรียในเดือนกันยายนนั้น ช่วยให้กองกำลังภาคพื้นดินสามารถยึดพื้นที่คืนได้ถึง 700 ตารางกิโลเมตร หรือ 1 ใน 5 ที่อยู่ในการยึดครองของไอเอส รวมทั้งตัดแหล่งทุนสำคัญของนักรบญิฮัดกลุ่มนี้
เคร์รีเสริมว่า จนถึงขณะนี้ มีการโจมตีไอเอสประมาณ 2,000 ระลอก แต่เขาไม่ได้ระบุว่า พื้นที่ที่ยึดคืนได้อยู่ในอิรักหรือซีเรีย โดยเพียงสำทับว่า กลุ่มพันธมิตรสามารถสกัดไม่ให้ไอเอสเข้าใช้ประโยชน์จากแหล่งผลิตก๊าซและน้ำมัน 200 แห่ง รวมถึงขัดขวางโครงสร้างการบัญชาการ ตัดเส้นทางเงินทุน และทำให้นักรบไอเอสแตกกระจัดกระจาย
นอกจากนี้ สื่อของทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ยังรายงานว่า ฝูงบินขับไล่เอฟ-16 ของยูเออีเดินทางถึงจอร์แดนแล้วเมื่อวันอาทิตย์พร้อมนักบินและช่างเทคนิค ตามคำสั่งของมกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด บิน ซาเยด อัล-นาฮายันแห่งอาบูดาบี เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีไอเอส
ทางด้านซีเรียน อ็อบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ กลุ่มสังเกตการณ์สถานการณ์ด้านมนุษยชนในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน เปิดเผยในวันเดียวกันว่า กองกำลังเคิร์ดสามารถยึดหมู่บ้านกว่า 1 ใน 3 ในเมืองโคบานี เมืองยุทธศาสตร์ชายแดนซีเรียคืนสำเร็จ หลังจากร่วมกับกลุ่มกบฏซีเรียและกลุ่มพันธมิตรต่อสู้กับไอเอสมานาน 4 เดือน