รอยเตอร์ – รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เผยว่า เนปาลจะจัดการฝึกอบรมแรงงาน 50,000 คนเพื่อช่วยดำเนินการฟื้นฟูบูรณะประเทศหลังได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งถือเป็นโครงการพัฒนาทักษะอาชีพทีใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจคาดว่าจะดิ่งลงสู่อัตราต่ำสุดในรอบ 8 ปี
ประเทศยากแค้นแห่งนี้ประกาศว่าต้องการเงิน 6.6 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.2 แสนล้านบาท) เพื่อการฟื้นฟูประเทศ หลังจากที่เหตุแผ่นดินไหว 2 ครั้งในเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมคร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 9,000 คนในภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศนี้
ในการประกาศงบประมาณประจำปีเมื่อวานนี้ (14) ราม ชารัน มาหัต มาหัต รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวว่า รัฐบาลจะจัดการฝึกอบรมคนหลายหมื่นคนให้ทำงานเป็น ช่างไม้ , ช่างประปา , ช่างไฟ และช่างปูน
โครงการนี้จะช่วยอุดช่องโหว่ของภาวะขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากหนุ่มสาวชาวเนปาลหลายล้านคนเดินทางไปทำงานที่ตะวันออกกลางและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในเขตก่อสร้าง
มาหัต กล่าวว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะโตขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ในปีการเงินนี้ ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007 เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังระบุว่า การฟื้นฟูบูรณะดังกล่าวจะช่วยผลักดันการเติบโตเป็น 6 เปอร์เซ็นต์ภายในปีหน้า
รัฐบาลจะใช้จ่ายเงิน 910 ล้านดอลลาร์ในปีนี้เพื่อซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน , อาคารที่ทำการรัฐ , อนุสาวรีย์ และบ้านเรือนที่ถูกทำลายจากเหตุแผ่นดินไหวทั้ง 2 ครั้ง
เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวทำให้จำเป็นต้องมีปฏิบัติการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์จากนานาชาติขนานใหญ่ ซึ่งเนปาลสั่งยุติไปเมื่อเดือนมิถุนายนเพื่อมุ่งความสนใจไปที่การช่วยเหลือเหยื่อและการฟื้นฟูบูรณะ
แต่ชาวเนปาลจำนวนมากที่ยังอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยต่างบอกว่า พวกเขายังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากรัฐบาลเลย
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ประชาชน 2.8 ล้านคนยังคงอยู่ในภาวะที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน อาทิเช่น ที่พักพิง , อาหาร , การให้บริการทางด้านสุขภาพ และการคุ้มครอง