xs
xsm
sm
md
lg

‘รบ.จีน’ระบุ‘ตลาดหุ้นผันผวน’จะไม่ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย

เผยแพร่:   โดย: เอเชียอันเฮดจ์

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

State Council: China’s stock volatility won’t singe economy
By Asia Unhedged
09/07/2015

หลังจากรัฐบาลจีนเคลื่อนไหวออกมาตรการต่างๆ เป็นชุดใหญ่เพื่อหยุดยั้งการกระหน่ำเทขายแบบตื่นตระหนก ในที่สุดตลาดหุ้นก็พุ่งทะยานอยู่ในแดนบวกเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันคณะรัฐมนตรีแดนมังกรได้ออกมาแถลงยืนยันว่า ประเทศจีนยังคงสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอันสำคัญๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและด้านสังคมซึ่งกำหนดเอาไว้สำหรับปีนี้

หลังจากรัฐบาลจีนเคลื่อนไหวออกมาตรการต่างๆ เป็นชุดใหญ่เพื่อหยุดยั้งการกระหน่ำเทขายแบบตื่นตระหนก ในที่สุดดัชนีหุ้นคอมโพสิตของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ในวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) ก็ปิดบวกพุ่งพรวด 5.8% มาอยู่ที่ 3,709 ถือเป็นการไต่สูงที่สุดในวันเดียวในรอบ 6 ปีของดัชนีตัวนี้ ส่วนดัชนีหุ้นคอมโพสิตของตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นก็กระโจนขึ้น 3.8% และดัชนี CSI 300 ของหุ้นตัวใหญ่ที่สุด 300 ตัวก็ทะยานไป 6.4%

ในเมื่อหลักทรัพย์ที่ซื้อขายกันได้ถึงประมาณครึ่งหนึ่งทีเดียว ถูกสั่งระงับการเทรดเอาไว้ก่อน ขณะเดียวกันรัฐบาลก็บอกให้พวกธนาคาร, บริษัทหลักทรัพย์, และบริษัทประกันภัยทั้งหลายเข้ามาซื้อหุ้น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไร เวลานี้ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดและได้แต่คาดเดากันไปว่าจะสามารถพยุงสภาวการณ์เช่นนี้ไปได้ยาวนานแค่ไหน แต่จากการที่วิกฤตกรีซก็กำลังเปลี่ยนแปลงจากภาวะเดือดปุดๆ กลายมาเป็นแค่ระอุคุกรุ่น ผู้คนจึงกำลังหันมาพิจารณาอย่างใกล้ชิดมากขึ้นถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดจีน รวมทั้งผลกระทบต่อเนื่องที่จะมีต่อเศรษฐกิจแดนมังกรโดยรวม

สภามนตรีแห่งรัฐ (State Council) ซึ่งก็คือคณะรัฐมนตรีของจีน ได้ออกมาแถลงเมื่อวันพุธ (8 ก.ค.) ที่ผ่านมาว่า “ประเทศ (จีน) ยังคงสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอันสำคัญๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและด้านสังคมซึ่งกำหนดเอาไว้สำหรับปีนี้” สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงาน (ดูรายละเอียดได้ที่ http://news.xinhuanet.com/english/2015-07/09/c_134398366.htm)

ปีที่แล้ว เศรษฐกิจของจีนเติบโตด้วยอัตรา 7.4% ถือเป็นอัตราเชื่องช้าที่สุดในรอบ 24 ปี สำหรับปีนี้ จากการที่ตลาดที่อยู่อาศัยกำลังทรุดตัว และการที่กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมก็ล้นเกิน รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ 7% ขณะที่เป้าหมายดังกล่าวนี้ต่ำลงอย่างมากจากอัตราเติบโตขยายตัวระดับตัวเลข 2 หลักซึ่งจีนทำได้ตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทว่าแดนมังกรก็ยังคงเป็นหนึ่งในระบบเศรษฐกิจที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วที่สุดบนพื้นพิภพนี้อยู่ดี

นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ระบุสำทับเอาไว้ในคำแถลงว่า “สัญญาณในทางบวกกำลังเพิ่มทวีในระยะ 2 เดือนหลังมานี้ ส่วนการปรับตัวเชิงโครงสร้างก็กำลังเร่งตัวขึ้น”

สำหรับไตรมาสแรกของปีนี้ ทางการจีนบอกว่าอัตราเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ที่ 7% ขณะที่ธนาคารโลกทำนายว่าในปี 2015 อัตราเติบโตของแดนมังกรจะเท่ากับ 7.1% และปีหน้าลดลงเล็กน้อยเป็น 7.0%

ช่วงหลังๆ มานี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมการผลิต (manufacturing purchasing managers’ index ใช้อักษรย่อว่า PMI) ของจีน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญตัวหนึ่งที่ใช้วัดกิจกรรมในโรงงานต่างๆ กำลังขยับสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เคียงข้างเครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจตัวอื่นๆ อาทิ การบริโภคกระแสไฟฟ้า ทั้งนี้ตามรายงานของซินหวา โดยบอกด้วยอีกว่า การปฏิรูปต่างๆ ในเชิงโครงสร้างยังกำลังช่วยสร้างการเจริญเติบโตที่มีคุณภาพสูงขึ้นและขับดันด้วยนวัตกรรม

ในเวลาเดียวกัน นโยบายด้านการเงินและด้านการคลังของรัฐบาล ได้จุดประกายให้ตลาดที่อยู่อาศัยเกิดกระเตื้องดีขึ้น

“ยอดขายบ้านในเมืองชั้นหนึ่ง (tier-one) ของจีน เป็นต้นว่าปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ พุ่งพรวดขึ้นถึง 42.2% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เมื่อคำนวณเปรียบเทียบกันแบบปีต่อปี ส่วนในเมืองชั้นสอง (tier-two) ก็สูงขึ้น 16.9%” รายงานของซินหวาระบุ

ในการแถลงเมื่อวันพุธ (8 ก.ค.) สภามนตรีแห่งรัฐกล่าวด้วยว่า “เงินทุนงบประมาณที่ถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง หรือถูกพักเอาไว้ก่อน ซึ่งรวมแล้วมีจำนวนมากกว่า 250,000 ล้านหยวน (41,000 ล้านดอลลาร์) นั้น ทางหน่วยงานด้านงบประมาณควรที่จะเรียกคืนมา และเงินเหล่านี้ควรนำเอาไปในลงทุนในด้านอื่นๆ ซึ่งมีเงินทุนไม่เพียงพอ” ทั้งนี้ตามรายงานของสำนักข่าวซินหวา นอกจากนั้น คณะรัฐมนตรีจีนยัง “เรียกร้องให้มีการปฏิบัติตามนโยบาย, มาตรการการปฏิรูป, และโครงการต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจจะยังคงอยู่ในแถบช่วงที่ถูกต้องเหมาะสม เนื่องจากความถูกต้องเหมาะสมเช่นนี้จะสนับสนุนส่งเสริมการเจริญเติบโตที่มีคุณภาพและยกระดับสูงขึ้นไปอีก”

สภามนตรีแห่งรัฐระบุอีกว่า การเติบโตในภาคบริการของจีนยังคงสดใสแข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกบริการระดับก้าวหน้า อาทิ การธนาคาร และการประกันภัย ขณะที่การบริโภคมีอัตราเติบโตรวดเร็วกว่าการลงทุนเล็กน้อย ในช่วงไม่กี่ปีหลังๆ มานี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับเครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่แสดงสัญญาณไปในทางลบนั้น ภาวะเงินเฟ้อของผู้บริโภคได้เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถึงแม้ภาคขายส่งยังคงเผชิญปัญหาภาวะเงินฝืดเป็นเดือนที่ 40 ติดต่อกันแล้ว

(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น