สหภาพยุโรปชี้บัตรเครดิต “มาสเตอร์การ์ด” ขูดรีดลูกค้า-ห้างร้านเกินควร

เอเอฟพี - สหภาพยุโรปออกมาระบุในวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) ว่าธุรกิจบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ “มาสเตอร์การ์ด” ได้ชาร์จเงินร้านค้าปลีกและผู้ใช้บริการเกินควร หลังจากที่เคยพบว่าบัตรคู่แข่งอย่าง “วีซ่า” ก็ทำผิดในเรื่องการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้จ่ายผ่านบัตรมาแล้วเช่นกัน

คณะกรรมธิการยุโรประบุในคำแถลงเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเชื่อว่ามาสเตอร์การ์ดนั้นได้ละเมิดกฎการแข่งขันในตลาดเดียวของอียู

“มีผู้บริโภคจำนวนมากใช้จ่ายผ่านบัตรในแต่ละวัน ตอนซื้ออาหาร เสื้อผ้า หรือซื้ออะไรก็ตามผ่านช่องทางออนไลน์ ตอนนี้เราสงสัยว่ามาสเตอร์การ์ดได้เพิ่มค่าใช้จ่ายอย่างผิดสังเกตุ สำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งนั่นจะส่งผลร้ายต่อผู้บริโภคและร้านค้าปลีกในอียู” คณะกรรมาธิการยุโรประบุ

อียูบอกด้วยว่า กังวลเกี่ยวกับเรื่องกฎระเบียบที่ทางมาสเตอร์การ์ดใช้ในการซื้อขายระหว่างประเทศในกลุ่มอียู เช่นเดียวกับค่าธรรมเนียมที่คิดกับร้านค้าปลีก สำหรับการรับเงินที่ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรนอกยุโรป

ด้านมาสเตอร์การ์ดยืนยันว่าได้รับทราบเรื่องนี้จากคณะกรรมาธิการยุโรปแล้ว และจะดำเนินการตอบสนอง

คณะกรรมาธิการยุโรปได้ทำการสืบสวนมาสเตอร์การ์ดและวีซ่ามาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เกี่ยวกับการคิดค่าธรรมเนียมของพวกเขา หลังจากที่มีการร้องเรียนจากลูกค้าและห้างร้านหลายรายว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

เรื่องหลักที่อียูกังวลนั้นคือค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจะมีการชาร์ตเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรระหว่างประเทศ โดยตามกฏของมาสเตอร์การ์ดนั้น ธนาคารไม่สามารถเสนอคิดค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่ำกว่าให้แก่ห้างร้านในประเทศอื่น แต่ถ้าชาร์ตเพิ่มขึ้นสามารถทำได้

“ผลที่ตามมาก็คือร้านค้าไม่อาจได้รับประโยชน์จากประเทศที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ และการแข่งขันระหว่างธนาคารของแต่ละประเทศก็อาจถูกจำกัดไปด้วย ซึ่งนั่นละเมิดกฏต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป” อียู ระบุ

ทั้งนี้ เมื่อปี 2013 ธุรกิจบัตรเครดิตวีซ่าต้องลดค่าธรรมเนียมถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และยอมตกลงที่จะปรับปรุงกฎเพื่อให้การแข่งขันระหว่างประเทศทำได้ง่ายขึ้น หลังจากที่โดนสืบสวนคล้ายกับครั้งล่าสุดนี้