xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดจีนฟื้นดันหุ้นเอเชียกระเตื้อง ชี้เกมยังไม่จบ-ลุ้นปักกิ่งออกมาตรการเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i><b>บรรดานักลงทุนดูจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังแสดงข้อมูลหุ้น ณ สำนักงานของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งในเมืองไท่หยวน มณฑลซานซี เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) ซึ่งปรากฏว่าหุ้นจีนสามารถดีดกลับแรงขึ้นมาอยู่ในแดนบวกร่วมๆ 6%</i></b>
เอเจนซีส์ - ตลาดหุ้นจีนฟื้นยกแผง โดยดัชนีสำคัญของเซี่ยงไฮ้ปิดวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) บวกขึ้นมาเกือบ 6% ภายหลังปักกิ่งเพิ่มมาตรการใหม่ๆ สกัดการเทขาย แล้วยังส่งผลหนุนเนื่องให้ตลาดหลักทรัพย์เอเชียพุ่งตามกัน กระนั้นดีลเลอร์ยังไม่มั่นใจว่าสถานการณ์นี้จะคงอยู่นานแค่ไหน ชี้ต้องจับตาว่าจีนจะมีมาตรการใดตามออกมาอีก

ดัชนีคอมโพสิตของตลาดเซี่ยงไฮ้ ไหลรูดลงลึกมากกว่า 30% ทีเดียว นับตั้งแต่ภาวะกระทิงเปลี่ยวถึงจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 12 เดือนที่แล้ว ทำให้เกิดความหวาดวิตกไม่เพียงเรื่องภาวะของตลาดการเงินเท่านั้น หากยังลามไปถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของจีน ที่มีขนาดใหญ่โตเป็นอันดับ 2 ของโลก

อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดี (9) ดัชนีคอมโพสิตของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดการซื้อขายโดยสามารถดีดขึ้น 5.76% หรือ 202.14 จุด อยู่ที่ 3,709.33 มูลค่าการซื้อขาย 673,300 ล้านหยวน (110,100 ล้านดอลลาร์) ทั้งนี้หลังจากดิ่งลงลึกสุด 3.81% ในช่วงเช้า ก่อนจะดีดตัวกลับโดยกระเด้งขึ้นแรงสุดถึง 6.88% รวมแล้วในวันเดียวดัชนีมีการแกว่งตัวกว่า 10%

เช่นเดียวกัน ดัชนีคอมโพสิต ของตลาดเซินเจิ้น ซึ่งเป็นตลาดหุ้นอันดับ 2 ของจีน ก็ปิดพุ่งขึ้น 3.76% หรือ 70.90 จุด อยู่ที่ 1,955.53 โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 277,600 ล้านหยวน
<i><b>นักลงทุนยืนอยู่หน้าจออิเล็กทรอนิกส์แสดงข้อมูลหุ้น ที่ สำนักงานของโบรกเกอร์แห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง วันพฤหัสบดี (9)</i></b>
ภาวะการดีดแรง ยังสะท้อนให้เห็นจากการที่มีหุ้นกว่า 1,100 ตัวในทั้งสองตลาด พุ่งขึ้นแตะ 10% อันเป็นขีดสูงสุดที่จะปรับเพิ่มได้ในแต่ละวัน โดยที่ปัจจัยบวกสำคัญที่สุดมาจากการที่ทางการจีนออกคำสั่งเมื่อค่ำวันพุธ (8) ห้ามนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งหมายถึงนักลงทุนที่ถือครองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนเอาไว้อย่างน้อย 5% ตลอดจนตัวผู้บริหารบริษัทดังกล่าวด้วย ดำเนินการขายหุ้นตัวนั้นๆ ภายในระยะเวลา 6 เดือน

ไม่เพียงเท่านั้น ในวันพฤหัสบดี (9) ตำรวจและหน่วยงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของทางการแดนมังกร ยังเปิดการสอบสวนการทำชอร์ตเซลล์ที่เดิมพันว่าราคาหุ้นจะหล่นลงอีก นอกจากนั้น ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (พีเพิลส์ แบงก์ ออฟ ไชน่า) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของแดนมังกร ยังประกาศอัดฉีดสภาพคล่องให้แก่ไชน่า ซีเคียวริตี้ส์ ไฟแนนซ์ คอร์ป (ซีเอสเอฟ) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจหลักทรัพย์ โดยหน่วยงานผู้คุมกฎตลาดหลักทรัพย์ได้ออกคำแถลงในเวลาต่อมาว่า ซีเอสเอฟจะจัดหาสภาพคล่องให้แก่นักลงทุนที่ต้องการซื้อ “กองทุนของรัฐ” ซึ่งมีการดำเนินการเหมือนกับกองทุนรวม

เฉียน ฉือหมิน นักวิเคราะห์ของเซินหว่าน ฮงหยวน กรุ๊ป ชี้ว่า การดีดขึ้นของราคาหุ้นล่าสุดอาจช่วยคลายความกดดันในการแตกตื่นเทขายลงได้บ้าง แต่ผลพวงนี้จะคงอยู่นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับว่า ปักกิ่งจะมีมาตรการใดๆ ตามออกมาอีก

ขณะที่ ตู้ ฉางชุน นักวิเคราะห์ของนอร์ทอีสต์ ซีเคียวริตี้ส์ในเซี่ยงไฮ้ ขานรับว่า ตลาดรับรู้ถึงปัจจัยบวกบางอย่าง แต่ยังไม่อาจฟันธงได้ว่า ปักกิ่งชนะราบคาบ เนื่องจากขณะนี้ยังมีบริษัทจดทะเบียนกว่าครึ่งที่ขอให้หน่วยงานผู้คุมกฏสั่งระงับการซื้อขายไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาไหลรูดลงไปอีก

ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบีด มีบริษัทประมาณ 1,500 แห่ง หรือกว่า 50% ของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาด อยู่ในสภาพระงับการซื้อขาย
<i><b>จอภาพที่ด้านนอกของธนาคารแห่งหนึ่งในฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสบดี (9) แสดงให้เห็นดัชนีสำคัญๆ ของตลาดจีนซึ่งเป็นที่นิยมติดตามกันในฮ่องกง</i></b>
จากการฟื้นตัวของตลาดหลักทรัพย์จีนในวันพฤหัสบดี ยังได้ส่งอานิสงส์ไปช่วยหนุนตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆ ดีดขึ้นเช่นกัน หลังจากเกิดการเทขายอย่างหนักในช่วงเช้า เป็นต้นว่า ตลาดฮ่องกง ดัชนีหั่งเส็งปิดเพิ่มขึ้น 3.73% หลังจากตกแรงที่สุดในการซื้อขายระหว่างวันในรอบกว่า 6 ปีเมื่อวันพุธ (8) ส่วนตลาดโตเกียวปิดวันพฤหัสบดีก็ฟื้นขึ้นมา0.60% จากที่ดิ่งลงกว่า 3%

ขณะที่ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ในตลาดวอลล์สตรีทเมื่อคืนวันพุธ ตกลง 1.47% เนื่องจากถูกรุมเร้าจากความกังวลกับผลกระทบจากตลาดหุ้นรูดที่อาจเกิดกับเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นกำลังหลักของเศรษฐกิจโลก ตลอดจนจากวิกฤตหนี้กรีซ

ภาวะตลาดหุ้นจีนทรุดยังส่งผลลุกลามไปยังสินค้าโภคภัณฑ์บางชนิด เช่น สินแร่เหล็ก ซึ่งจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยราคาแร่เหล็กดิ่งทำสถิติต่ำสุดในรอบ 6 ปีในวันพฤหัสบดี


กำลังโหลดความคิดเห็น