เอเอฟพี - อิสราเอลและปาเลสไตน์ในวันนี้ (8 ก.ค.) ซึ่งครบรอบหนึ่งปีสงครามในฉนวนกาซาที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว โดยรวมแล้วยังคงรักษาข้อตกลงหยุดยิงไว้ได้อยู่ แต่ประเด็นต่างๆ ที่นำไปสู่ความขัดแย้งดังกล่าวนั้นกลับแทบไม่ได้รับการแก้ไขเลย
สงครามดังกล่าวสร้างความสูญเสียอย่างหนักหน่วงในฝั่งฉนวนกาซา โดยคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปถึง 2,251 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กกว่า 500 ราย ขณะที่ในฝั่งอิสราเอลมีผู้เสียชีวิต 73 ราย ในจำนวนนี้เป็นทหาร 67 ราย
รายงานขององค์การสหประชาชาติที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายอาจก่ออาชญากรรมสงครามในช่วงความขัดแย้งนาน 50 วันนั้น ซึ่งทำให้มีชาวกาซาพลัดถิ่นกว่า 100,000 คนในดินแดนเล็กๆ ที่ยากแค้นของประชากร 1.8 ล้านคนแห่งนี้
มันเป็นสงครามครั้งที่ 3 ในรอบ 6 ปี และเป็นครั้งที่มีคนผู้เสียชีวิตและสร้างความเสียหายมากที่สุด ทำให้หลายครอบครัวอดรำพึงไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ความทุกข์เข็ญนี้จะสิ้นสุดเสียที
โรเบิร์ต เทอร์เนอร์ ผู้อำนวยการปฏิบัติการในฉนวนกาซาของสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติ (UNRWA) กล่าวว่า “คุณต้องนึกถึงว่า ถ้าคุณเป็นเด็กอายุเพียง 7 ขวบ คุณได้ผ่านสงครามมา 3 ครั้งแล้ว”
กลุ่มฮามาส ขบวนการอิสลามิสต์ที่ปกครองฉนวนกาซา มีแผนจัดพิธีรำลึกในวันนี้ (8) ขณะที่อิสราเอลจัดพิธีรำลึกให้กับเหยื่อที่ถูกสังหาร 73 คนไปเมื่อวันจันทร์ (6) ซึ่งนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ได้กล่าวปกป้องการเข้ารุกรานทางทหารของรัฐยิว
“ผมบอกกับศัตรูของอิสราเอลทั้งหมด ทั้งฮามาส, ฮิซบอลเลาะห์, อิหร่าน และไอเอส (กลุ่มรัฐอิสลาม) ว่า เหล่าผู้ที่พยายามโจมตีประชาชนของเราจะต้องชดใช้ด้วยเลือดของพวกเขา” เขากล่าว
สภาวะแวดล้อมรอบๆ ฉนวนกาซาได้ก่อให้เกิดความกลัวว่า สงครามอาจประทุขึ้นอีกในที่สุด เนื่องจากยังคงมีการยิงจรวดเข้าไปในอิสราเอลเป็นบางครั้งบางคราว และรัฐยิวก็ตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศ
การเจรจาทางอ้อมเกี่ยวกับการรักษาข้อตกลงหยุดยิงที่ยุติสงครามเมื่อปีที่แล้วรวมถึงการลดการปิดล้อมอย่างเข้มงวดของอิสราเอลบริเวณดินแดนดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่มีสัญญาณว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเวลาอันใกล้
การปิดล้อมดังกล่าวตลอดจนการขาดแคลนเงินสนับสนุนจากผู้บริจาคต่างชาติถูกชี้ว่าเป็นสาเหตุของอัตราการฟื้นฟูบูรณะอย่างเชื่องช้าในฉนวนกาซา ที่ซึ่งบ้านเรือนราว 18,000 หลังถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายหนัก
ความแตกแยกระหว่างกลุ่มฮามาสและรัฐบาลปาเลสไตน์ที่นำโดยประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส ซึ่งปกครองเขตเวสต์แบงค์ที่อิสราเอลยึดครองอยู่ ได้ทำให้สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก ขณะที่ความพยายามประสานรอยร้าวก็ไม่เป็นผล
ในขณะเดียวกัน กลุ่มฮามาสได้ถูกท้าทายโดยพวกกลุ่มอิสลามิสต์สายซาลาฟีที่อ้างว่าเกี่ยวพันกับกลุ่มนักรบญิฮาดไอเอส และอวดอ้างความรับผิดชอบต่อการยิงจรวดครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้
