รอยเตอร์ – รัฐบาลออสเตรเลียประกาศมอบเงินอัดฉีด 930 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 24,300 ล้านบาท) แก่ธนาคารเพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ที่จีนก่อตั้งในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้แดนจิงโจ้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 6 ของสถาบันการเงินน้องใหม่แห่งนี้
57 ประเทศทั่วโลกรวมถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิหร่าน ได้ร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้ง AIIB ซึ่งมีทุนจดทะเบียนสูงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะกลายมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของสถาบันการเงินหลักอย่างธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ในอนาคต
รัฐบาลจีนได้ประกาศก่อตั้ง AIIB ขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เพื่อสนับสนุนการลงทุนด้านขนส่ง พลังงาน โทรคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในทวีปเอเชีย
“การเป็นสมาชิกก่อตั้ง AIIB ถือเป็นโอกาสที่ออสเตรเลียจะได้ทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดอย่างจีน เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของตำแหน่งงาน” คำแถลงจากกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย ระบุ
“AIIB พร้อมที่จะร่วมมือกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อปูทางให้นักธุรกิจออสเตรเลียได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคนี้”
โจ ฮ็อกกี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออสเตรเลีย จะเดินทางไปร่วมพิธีลงนามข้อตกลงที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 29 มิถุนายน
สหรัฐฯ ซึ่งหวั่นวิตกกับการขยายอิทธิพลของจีนเคยออกมาเตือนให้ทุกประเทศ “คิดให้รอบคอบ” ก่อนสมัครเข้าร่วมกับ AIIB โดยชี้ว่าธนาคารแห่งนี้อาจจะกลายเป็นเพียงเครื่องมือของปักกิ่งที่ด้อยมาตรฐานทั้งในด้านธรรมาภิบาล สิ่งแวดล้อม และประเด็นทางสังคมอื่นๆ ทว่าจุดยืนเช่นนี้ก็ดูเหมือนจะทำให้วอชิงตันถูกโดดเดี่ยวเสียเอง
รัฐบาลจีนออกมาแถลงเมื่อวันอังคาร(23)ว่า ยังพร้อมที่จะต้อนรับสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเข้าเป็นสมาชิก AIIB ทว่าข้อเสนอที่ส่งไปกลับถูกเพิกเฉย
“เรายังเปิดประตูต้อนรับทั้งสองประเทศ” โหลว จี้เหว่ย รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีนให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ภายหลังหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในการประชุมว่าด้วยนโยบายความมั่นคงและเศรษฐกิจประจำปีที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
“แต่ขณะนี้ทั้ง 2 ประเทศยังไม่แสดงความจำนงที่จะเข้าร่วมกับ AIIB” เขากล่าว
