xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : ฮิลลารีทิ้งโอบามาในดีลการค้า หลังเยินยอผู้นำผิวสีตามรอยปธน.รูสเวลต์ “รีบิลด์อเมริกา” ในไฮปาร์กเปิดตัว – รัสเซียอัด “โคตรล้าหลัง ใช้หมีขาว-ปักกิ่งสังเวยอำนาจเหมือนเคย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ส – ล่าสุดในวันอาทิตย์(14) ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 ได้ประกาศกับบรรดาเดโมแครตในรัฐไอโอวาว่า เธอมีความเห็นต่างในเรื่องนโยบายการค้าระหว่างประเทศกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา หลังจากก่อนหน้านี้ 1 วันจากการเปิดแคมเปญทาวการเมืองครั้งใหญ่บนเกาะรูสเวลต์ รัฐนิวยอร์ก อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเยินยอผู้นำผิวสีว่า เป็น 1 ใน 2 ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ดำเนินรอยตามการสร้างอเมริกาให้กลับมาเข้มแข็งตามแบบอดีตประธานาธิบดี แฟรงกลิน ดี รูสเวลต์ หรือ FDR ผู้โด่งดัง ในขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา ( Maria Zakharova) กล่าวโต้ว่า แคมเปญหาเสียงของคลินตันในวันเสาร์(13)ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากพยายามสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวอเมริกันเพื่อหวังโกยคะแนนเสียงตามแบบที่เคยทำมาแต่ครั้งอดีต โดยใช้รัสเซียและจีนเป็นเครื่องสังเวยความเกลียดชังเพื่ออำนาจในทำเนียบขาว

เมื่อวานนี้(14) ในเวทีการหาเสียงรัฐไอโอวากับบรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครต ฮิลลารี คลินตัน ตัวเก็งผู้สมัครประธานาธิยบดีสหรัฐฯปี 2016 ได้กล่าวตำหนิแนวทางนโยบายการค้าระหว่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา เพื่อนร่วมพรรคเดโมแครต และคู่ปรับในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2009 ว่า โอบามาควรฟังจากเพื่อนร่วมพรรคมากกว่านี้ในการเจรจาเขตการค้าเสรี ทรานสแปซิกพาร์ทเนอร์ชิฟ หรือ TPP ซึ่งสหรัฐฯกำลังเจรจากับประเทศในฝั่งเอเชีย

เอพีและNBC News สื่อสหรัฐฯรายงานว่า คลิตตันเห็นควรว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯควรเริ่มต้นฟังเพื่อนร่วมพรรค โดยเริ่มจากอดีตประธานสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ถึงปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่อาจเกิดกับแรงงานในสหรัฐฯเพื่อจะทำให้สหรัฐฯมีความเข้มแข็งในการเจรจาต่อรองกับประเทศคู่ค้าทั้งสองฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อผลประโยชน์ที่มากที่สุดสำหรับอเมริกา

ทั้งนี้เอพีระบุว่า จากบิลฟาสแทร็กที่อนุญาตให้รัฐบาลสหรัฐฯมีอำนาจพิเศษสร้างความไม่พอใจกับฝั่งเดโมแครต และถึงกับทำให้โอบามาถูกพรรคเดโมแครตโดดเดี่ยว โดยล่าสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อนสมาชิกสภาล่างสหรัฐฯจากพรรคของโอบามาหนุนพรรครีพับลิกันคู่แข่งที่คุมเสียงข้างมากคว่ำกฎหมายสร้างงานสหรัฐฯที่นำกลับเข้าสภาใหม่อีกครั้งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โอบามา เพื่อตอบโต้นโยบาย TPP ของโอบามา โดยฝั่งเดโมแครตที่นำโดยวุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์ เอลิซาเบธ วอร์เรน ไม่เห็นด้วยต่อนโยบายการค้า TPP นี้ และสมาชิกส่วนมากของพรรคเดโมแครตต่างเชื่อว่า นโยบาย TPP จะโยกย้ายตำแหน่งงานจำนวนมากออกนอกประเทศ และเป็นผลทำให้ชาวอเมริกันโดยเฉพาะระดับชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงานที่เป็นฐานเสียงสำคัญของเดโมแครตต้องตกงานเป็นจำนวนมาก

ในขณะที่คริสเตียนไซน์ มอร์นืเตอร์ สื่อการเมืองสหรัฐฯรายงานถึงแคมเปญหาเสียงเปิดตัวครั้งใหญ่ของฮิลลารี คลินตัน ในการหาเสียงการเลือกตั้งปี 2016 บนเกาะรูสเวลต์ รัฐนิวยอร์ก ในวันเสาร์(13) ที่อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯใช้เวลากว่า 50 นาทีเป็นครั้งแรกในการหาเสียงบนเวทีใหญ่อย่างเป็นทางการที่มีผู้คนจับจ้องทั้งประเทศ รวมไปถึงกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย

ทั้งนี้คลินตันกล่าวไฮปาร์กโดยอ้างอิงถึงนโยบาย “รีบิลด์อเมริกา” เพื่อกลับมาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้งตามแบบอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ แฟรงกลิน ดี รูสเวลต์ หรือ FDR ผู้โด่งดัง ใน 4 หลักการเสรีภาพ

“ความเท่าเทียมเพื่อโอกาส งานสำหรับทุกคน และความมั่นคงและปลอดภัยต่อประชาชนสหรัฐฯ การสิ้นสุดสำหรับอภิสิทธิ์ชน การคงอยู่ของสิทธิพลเมืองสหรัฐฯ รวมไปถึงการทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนสหรัฐฯนั้นดีขึ้นและมีสังคมชนชั้นกลางขยายตัวกว้างขึ้น ซึ่งทุกอย่างนั้นเป็นสิ่งที่ดิฉันเห็นด้วยอย่างที่สุด” คลินตันกล่าว และเสริมต่อว่า ถือเป็นสิ่งที่รู้กันดีในอเมริกาที่ว่า หากทุกคนทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถ ทุกคนจะประสบความสำเร็จ และหากประชาชนอเมริกันสามารถเดินหน้าและประสบความสำเร็จ เป็นที่แน่ชัดว่า อเมริกาจะเดินไปข้างหน้าและเข้มแข็ง”

โดยคลินตันชี้ว่า ที่ผ่านมามีเพียง 2 ผู้นำสหรัฐฯที่ดำเนินตามรูสเวลต์ในการสร้าง “ความเท่าเทียม” เพื่อคนทั้งชาติคือ อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน สามีของเธอ และประธานาธิบดี บารัค โอบามา อดีตผู้บังคับบัญชา โดยเธอให้ความเห็นว่า ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผิวขาว ผิวสี ลาตินอเมริกา หรือเอเชีย ไม่ว่าจะร่ำรวย หรือยากจน ในอเมริกา ทุกคนควรมีโอกาสเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอเมริกาไปข้างหน้า เพราะหากทุกคนทำงานอย่างหนักตามกติกา ประเทศจะสามารถเดินหน้าได้และกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง โดยคลินตันต้องการให้อเมริกาเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสีเขียว และเด็กชาวอเมริกันทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาก่อนวัยเรียน และอนามัยและการดูแลของเด็ก รวมไปถึงการไม่เท่าเทียมในเงินเดือนระหว่างหญิงและชายในสหรัฐฯต้องหมดไป ที่ผู้หญิงอเมริกาได้ค่าแรง 70 เซนต์ทุก 1 ดอลลาร์ที่ชายอเมริกันได้รับในตำแหน่งและความรับผิดชอบเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนหนึ่งของการไฮปาร์กในวันเสาร์(13)นั้น คลินตันได้กล่าวถึงประเทศที่มีทิศทางการเมืองตรงข้ามสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ RT สือรัสเซียรายงานวันนี้(15)ว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา ( Maria Zakharova) กล่าวโต้ว่า แคมเปญหาเสียงของคลินตันในวันเสาร์(13)ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากพยายามสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวอเมริกันเพื่อหวังโกยคะแนนเสียงตามแบบที่เคยทำมาแต่ครั้งอดีต โดยใช้รัสเซียและจีนเป็นเครื่องสังเวยความเกลียดชังเพื่อชิงอำนาจในทำเนียบขาว

“ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการทำให้อเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยงจากประเทศที่ได้ถูกสร้างว่าเป็น “ศัตรูตัวฉกาจ” ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน และประเทศที่กำลังจะเป็นหนึ่งในขุมอำนาจใหม่ เช่น จีน โดยผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต “ฮิลารี คลินตัน” ได้กล่าวในการปราศรัยทางการเมืองครั้งสำคัญในวันเสาร์(13)ประกาศว่า “ดิฉันจะทำทุกอย่างในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯของทุกคนเพื่อปกป้องชีวิตชาวอเมริกันให้ปลอดภัย” ซาคาโรวา หัวหน้าโฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลง

และเธอยังได้โต้กลับอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯว่า เดโมแครตพยายามสร้างชื่อจากการฆ่าสิงโตโดยการสร้างสิงโตขึ้นมาขู่ให้คนหวาดกลัว “ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในการสร้างชื่อว่าเป็นผู้มีความสามารถในการสังหารเจ้าแห่งสัตว์ป่า เดโมแครตจำเป็นต้องสร้างสัตว์ตัวนี้ขึ้นมาก่อนโดยทำให้ผู้คนหวาดกลัวในความโหดร้าย ซึ่งดูเหมือนว่าเดโมแครตประสบความสำเร็จในการสร้างข่าวโคมลอยเช่นนี้มาไม่กี่ปีมานี้”

โดยซาคาโรวาแถลงผ่านเฟสบุ๊กว่า ในการทำแคมเปญทางการเมืองจำเป็นต้องมี “ภัยตัวใหม่ของโลก” เพื่อเรียกคะแนนเสียง แต่ทว่าเกาหลีเหนือนั้นเป็นประเทศที่เล็ก และไม่มีความสำคัญเพียงพอที่จะรับบทนี้ได้สำหรับ “ซูปเปอร์พาวเวอร์ ที่มีความสามารถในทุกสิ่ง” และอีกทั้งอิหร่าน ประเทศที่สหรัฐฯกำลังป้อยอให้ลงนามในสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ในเวลานี้ไม่เหมาะสมเพียงพอในการเล่นบทร้ายนี้

โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงเพิ่มเติมว่า ในการปราศรัยครั้งใหญ่ของคลินตันนั้น คล้ายกลับกลายว่า อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯได้หยิบยกเอาความคิดในยุค 50 กลับมาใช้อีกครั้งเพื่อใช้เป็นแทคติกในการกวาดคะแนนเสียงการเลือกตั้ง ดังนั้น “ขอต้อนรับศัตรูแห่งความมั่นคงของประชาคมโลกตัวใหม่คือ รัสเซีย และจีน ขุมอำนาจใหม่ของโลก” ซาคาโรวากล่าวทิ้งท้าย











กำลังโหลดความคิดเห็น