เอเจนซีส์ – ผู้โดยสารสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์สแสดงอาการเดือดดาลสุดขีดผ่านโซเชียลมีเดียในวันเสาร์(13) หลังจากผู้โดยสารร่วม 176 คนในเส้นทางชิคาโก-ลอนดอน ถูกกัปตันขับเครื่องบินมุ่งหน้าไปยังแคนาดาแทนที่จะเป็นกรุงลอนดอนตามเส้นทางการบินปกติ และปล่อยให้ผู้โดยสารต้องอาศัยในโรงนอนของค่ายทหารแคนาดากู๊ซ เบย์ ในเขตนิวฟาวแลนด์ แคนาดา กว่า 20 ชม. ในสภาพอากาศ 0 องศาเซลเซียสโดยไม่มีฮีทเตอร์ และที่ร้ายไปกว่านั้น ลูกเรือเที่ยวบินทั้งหมดต่างล่องหนหลังจากทิ้งผู้โดยสารไว้ที่ค่ายทหาร ทุกคนเข้าเช็คอินพักที่โรงแรมบริเวณในคืนเดียวกันนั้น
NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้(14)ว่า ผู้โดยสารเที่ยวบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส เส้นทางชิคาโก-ลอนดอนร่วม 176คนบนเครื่องต่างแสดงความไม่พอใจเป็นอันมาก และมีหลายคนได้ทวีตความไม่พอใจผ่านโซเชียลมีเดียในวันเสาร์(13) ที่พบว่าเที่ยวบินของพวกเขาได้บินออกนอกเส้นทางไปยังกู๊ซ เบย์ ในเขตนิวฟาวแลนด์ แคนาดา และต้องค้างคืนยังค่ายทหารแห่งนั้นในสภาพอากาศจุดเยือกแข็งในขณะที่บรรดาลูกเรือยูไนเต็ดแอร์ไลน์สต่างล่องหน และเช็คอินเข้าพักยังโรงแรมบริเวณไม่ห่างไกลแทน
“หลังจากที่เราไปถึงที่นั่น แต่ทว่าเรากลับไม่เห็นตัวแทนหรือเจ้าหน้าที่ยูไนเต็ดแอร์ไลน์สแม้แต่คนเดียว” ลิซา แวน (Lisa Wan) ผู้โดยสารเที่ยวบินประวัติศาสตร์ของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์สให้สัมภาษณ์กับ NBC News ทันทีหลังจากที่เดินทางไปถึงกรุงลอนดอนแล้ว โดยเธฮต้องใช้เวลาเดินทางนานถึง 48 ชม.สำหรับการเดินทางจากชิคาโกไปลอนดอน
“ไม่มีโทรศัพท์ติดต่อ ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า -มนุษย์- ไม่มีอะไรทั้งนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” แวนให้สัมภาษณ์ด้วยความหงุดหงิด
ในขณะที่ยูไนเต็ดแอร์ไลน์สออกแถลงการณ์ทวีตชี้แจงหนึ่งในผู้โดยสารของเที่ยวบินชิคาโก-ลอนดอน ว่า “ลูกเรือต้องพักผ่อนเพื่อสามารถทำการบินต่อไปได้ยังจุดหมายปลายทาง คุณสามารถนอนบนเครื่องที่อยู่ในระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ได้”
ในขณะที่ บ็อบ แชปเปล (Bob Chappell) ผู้โดยสารยูไนเต็ดแอร์ไลน์สอีกคนให้ความเห็นว่า การขาดการติดต่อจากบริษัทสายการบินทำให้ผู้โดยสารต่างสับสนและหงุดหงิดเป็นอันมาก โดยเฉพาะที่พักชั่วคราวที่ทางยูไนเต็ดแอร์ไลน์สจัดให้นั้นไม่สามารถทำให้ผู้โดยสารที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางสามารถพักได้เลย และไม่มีใครทราบว่าจะได้เดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางเมื่อใด”
โดยแชปเปลเปิดเผยต่อว่า ทั้งเขาและภรรยาต้องนอนร่วมกันบนเตียงสำหรับคนเดียว และอีกทั้งยังต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องพักข้างเคียง และที่เลวร้ายที่สุดคือสภาพอากาศช่วงกลางคืนที่เย็นจัดเพราะค่ายทหารแห่งนี้ไม่มีฮีทเตอร์ทำความร้อน โดยสื่อสหรัฐฯรายงานว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของกู๊ซ เบย์ ในเขตนิวฟาวแลนด์ แคนาดา ราว 0 องศาเซลเซียส
ซึ่งผู้โดยสารต่างยืนยันว่า ลูกเรือยูไนเต็ดแอร์ไลน์สเข้าพักที่โรงแรมใกล้เคียงแทน และได้แสดงภาพถ่ายต่อผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ยูไนเต็ดแอร์ไลน์สได้ชี้แจงเพิ่มเติมผ่านแถลงการณ์ถึงสาเหตุจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางการบินกระทันหันเนื่องมาจาก “ปัญหาการซ่อมบำรุง” และการที่ทางผู้โดยสารทั้งหมดบนเครื่องต้องนอนในค่ายทหารเพราะ "ไม่มีห้องพักเพียงพอในโรงแรมแถบนั้น" แต่กระนั้นสายการบินสัญชาติสหรัฐฯยืนยันว่า ทางบริษัทได้จัดหาอาหารให้ผู้โดยสารอย่างทั่วถึง
NBC News รายงานต่อว่า ในท้ายที่สุดผู้โดยสารทั้งหมดถูกนำกลับไปยังสนามบินนานาชาติน๊วร์ก (Newark) รัฐนิวเจอร์ซี และนำคนทั้งหมดจำนวน 176 คนบินต่อไปยังลอนดอนจุดหมายปลายทางเดิมในท้ายที่สุด
ทั้งนี้เที่ยวบินประวัติศาสตร์บินออกจากชิคาโก 17.26 น . ในวันศุกร์(12) และลงจอดที่กู๊ซ เบย์ แคนาดา ในเวลา 22.30 น. ในวันเดียวกันตามเวลาท้องถิ่น
และผู้โดยสารทั้งหมดถูกนำตัวออกจากค่ายทหารแคนาดาบินเพื่อออกจากสนามบินกู๊ซ เบย์ ในเวลา 22.00 น. ในวันเสาร์(13) เพื่อบินกลับเข้ารัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐฯ และทำการบินต่อไปยังกรุงลอนดอน และถึงจุดหมายปลายทางในบ่ายวันอาทิตย์(14)
ท้ายที่สุดยูไนเต็ดแอร์ไลน์สยืนยันผ่านแถลงการณ์ว่า ผู้โดยสารทุกคนจะได้รับเงินคืนค่าโดยสาร
