เอเจนซีส์ - ผู้นำแคนาดาประกาศเพิ่มความพยายามเป็นทวีคูณในการกำจัดกลุ่มก่อการร้าย ภายหลังมือปืนผู้เพิ่งเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลามและมีชื่ออยู่ในกลุ่มบุคคลต้องจับตาเป็นพิเศษได้ยิงทหารนายหนึ่งเสียชีวิต แถมพยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธ (22 ต.ค.) ทั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์นี้ที่เกิดเหตุร้ายซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรง และเป้าหมายที่ถูกเล่นงานเป็นทหารแดนใบเมเปิล
“แคนาดาจะไม่มีการลังเลอย่างเด็ดขาด” นายกรัฐมนตรีสตีเฟน ฮาร์เปอร์ กล่าวปราศรัยต่อประชาชนทั่วประเทศในวันพุธ “ในความเป็นจริงแล้วกรณีเช่นนี้มีแต่นำพาเราไปสู่ความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวมากขึ้นอีก และเพิ่มทวีความพยายามของเราและหน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งชาติทั้งหลาย ให้ใช้ขั้นตอนที่จำเป็นทั้งมวลเพื่อจำแนกแยกแยะและตอบโต้ภัยคุกคามต่างๆ และธำรงรักษาแคนาดาให้อยู่ในความปลอดภัย”
การปราศรัยถ่ายทอดสดทางทีวีของเขาคราวนี้ มีขึ้นไม่นานหลังจาก ไมเคิล ซีแฮฟ-ไบโบว์ ผู้ต้องสงสัยวัย 32 ปี ซุ่มยิงสิบโทนาธาน ซิริลโล ทหารที่รักษาการณ์อยู่ที่อนุสาวรีย์ทหารผ่านศึกในกรุงออตตาวา เสียชีวิต จากนั้นก็บุกเข้าสู่อาคารรัฐสภาที่อยู่ใกล้กัน และเปิดฉากยิงกราด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ อย่างน้อย 3 คน ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต
รัฐมนตรีกิจการทหารผ่านศึกษา จูเลียน ฟันติโน ตลอดจนเจ้าหน้ารัฐบาลคนอื่นๆ ได้กล่าวยกย่องชมเชยว่า เควิน วิกเกอร์ส ตำรวจสภาวัย 58 ปี คือผู้ที่ยิงคนร้ายเสียชีวิตที่บริเวณด้านนอกของห้องพบปะหารือของกลุ่มสมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้ว วิกเกอร์ส ปฏิบัติหน้าที่ในทางพิธีการของสภาผู้แทนราษฎร โดยเป็นผู้สวมเครื่องแบบยุคเก่าอันสวยงาม และถือคฑา เดินนำหน้าขบวนแห่ของ ส.ส.
ในคลิปเสียงที่มีผู้บันทึกไว้ ได้ยินเสียงปืนรัวหลายสิบนัดทั่วทั้งอาคารรัฐสภาแคนาดา ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า มีชายคนหนึ่งซึ่งมีเคราและโพกผ้าปิดครึ่งหน้า ได้ยิงทหารที่อนุสาวรีย์สงครามเสียชีวิต ก่อนจี้รถคันหนึ่งที่ขับผ่านให้ไปส่งที่อาคารรัฐสภาที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำออตตาวา
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยผู้นี้ซึ่งเปลี่ยนศาสนาหันไปนับถืออิสลาม เป็นผู้ที่เติบโตในเมืองลาวาล รัฐควิเบก และมีประวัติอาชญากรรมยาวเหยียด เป็นต้นว่า ลักขโมย พกพาอาวุธ และอีกหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขณะที่ตำรวจเผยว่า กำลังสอบสวนหาแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้
ขณะที่ เดวิด แบตเฮิร์สต์ เพื่อนของครอบครัวเผยว่า ได้พบซีแฮฟ-ไบโบว์ ในมัสยิดย่านเมืองแวนคูเวอร์เมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว และบอกว่า ซีแฮฟ-ไบโบว์ ไม่มีท่าทีว่า จะมีความคิดสุดโต่งหรือโน้มเอียงที่จะก่อความรุนแรง แต่ยอมรับว่า บางครั้งก็แสดงพฤติกรรมที่ไม่ปกติ เช่น บอกว่าถูกปีศาจตามล่า และเมื่อ 6 สัปดาห์ที่แล้วก็เล่าว่า อยากไปตะวันออกกลางโดยเร็วเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามและภาษาอาหรับ
ตามรายงานข่าวของสื่อแคนาดาระบุว่า ซีแฮฟ-ไบโบว์ ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้ต้องสงสัย “ความเสี่ยงสูง” และพาสปอร์ตของเขาก็ถูกทางการยึดเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเดินทางไปเข้าร่วมกับพวกนักรบญิฮัดในต่างแดน
ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ประณามเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในแคนาดา ภายหลังโทรศัพท์คุยกับฮาร์เปอร์ โดยประมุขทำเนียบขาวเผยว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลทั้งหมดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการลงมือปฏิบัติการแบบเป็นเครือข่าย หรือแผนการขนาดใหญ่ หรือว่าเป็นการก่อเหตุของคนๆ เดียวหรือกลุ่มบุคคลกลุ่มเดียว
เหตุการณ์นี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์นี้ที่ทหารแคนาดาถูกโจมตีภายในประเทศตนเอง โดยผู้ก่อเหตุเป็นผู้ที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม และแสดงความต้องการเดินทางไปตะวันออกกลาง อีกทั้งเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลแคนาดาตัดสินใจเข้าร่วมปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มนักรบญิฮัด “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ในอิรักและซีเรียเมื่อต้นเดือน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (20) คนร้ายชื่อ มาร์ติน กูตูร์-รูโลว์ ได้ขับรถกระบุพุ่งชนทหาร 2 นายในเมืองควิเบก ทำให้ทหารนายหนึ่งเสียชีวิต บาดเจ็บอีกคนหนึ่ง ก่อนที่คนร้ายจะถูกปลิดชีพโดยตำรวจ
กูตูร์-รูโลว์ประกาศตัวเป็นผู้สนับสนุนนักรบญิหาดของกลุ่มไอเอส และอยู่ในรายชื่อบุคคลที่ต้องจับตาเช่นเดียวกับซีแฮฟ-บิโบว์
ทั้งนี้ ทางการแคนาดาเผยว่า กำลังติดตามผู้ต้องสงสัย 90 คน และข่าวกรองบ่งชี้ว่า บุคคลหรือกลุ่มบุคคลภายในหรือนอกประเทศ มีเจตนาและความสามารถในการก่อการร้าย ด้วยเหตุนี้ ทางการจึงประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยก่อการร้ายจาก “ต่ำ” เป็น “กลาง” เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21)