รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ระบุในวันเสาร์ (13 มิ.ย.) ว่าอเมริกามีแผนจะส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารไปไว้ในหลายประเทศแถบทะเลบอลติกและยุโรปตะวันออก เพื่อให้ชาติพันธมิตรเหล่านั้นได้อุ่นใจจากสถานการณ์ในยูเครน รวมถึงช่วยยับยั้งท่าทีก้าวร้าวที่เพิ่มมากขึ้นของรัสเซีย
"เราส่งยุทโธปกรณ์ไปประจำการเพื่อเตรียมไว้" เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกกับนิวยอร์กไทม์ ที่รายงานว่า เพนตากอนจะส่งรถถัง รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ รวมถึงอาวุธหนักชนิดอื่นๆ พร้อมด้วยทหาร 5,000 นาย ไปยังพื้นที่เป้าหมายดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ผู้ขอไม่เปิดเผยตัวตนรายนี้ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับรายละเอียดของแผนดังกล่าว ที่มีการอ้างอิงถึงสหรัฐอเมริกาและบรรดาชาติพันธมิตร
รายงานระบุว่า หากความเคลื่อนไหวนี้ได้รับการอนุมัติ ก็จะถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น ที่อเมริกาส่งอาวุธหนักไปไว้ในดินแดนของชาติสมาชิกนาโต้รายใหม่ แถบยุโรปตะวันออก ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต
นิวยอร์กไทม์อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ โดยมีการระบุว่า แผนการนี้คาดว่าจะได้รับการอนุมัติโดยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กับทำเนียบขาว ก่อนถึงการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมของนาโต้ที่บรัสเซลส์ในเดือนนี้ เพื่อจะสร้างความอุ่นใจให้กับชาติพันธมิตรในยุโรป หลังรัสเซียทำการผนวกเอาไครเมียไปครอบครองในเดือนมีนาคม 2014
นิวยอร์กไทม์ ได้ระบุว่า จะมีการส่งยุทโธปกรณ์สำหรับ 1 กองร้อย ที่มากเพียงพอสำหรับทหารประมาณ 150 นาย ในประเทศแถบบอลติก 3 แห่ง ได้แก่ ลิทัวเนีย ลัตเวียเอสโตเนีย นอกจากนี้ยังอาจจะส่งยุทโธปกรณ์สำหรับ 1 กองพัน ซึ่งมากพอสำหรับทหารประมาณ 750 นาย ไปไว้ในโปแลนด์ โรมาเนีย บัลแกเรีย ฮังการี
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการสอบถาม ทางโฆษกของเพนตากอนกลับบอกว่า ยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องส่งยุทโธปกรณ์ดังกล่าว
"ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐฯ ได้เพิ่มการจัดส่งยุทโธปกรณ์ไปประจำการเตรียมไว้ในที่ต่างๆ เพื่อใช้ฝึกฝนและซ้อมรบกับนาโต้รวมถึงหุ้นส่วนรายอื่นๆ กองทัพสหรัฐฯ ยังคงทบทวนอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งที่ดีที่สุดสำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้ โดยมีการปรึกษาหารือกับชาติพันธมิตร แต่ในเวลานี้ยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องพวกนี้" พ.อ.สตีฟ วอร์เรน ระบุในคำแถลง