(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Jack Ma’s import tax-cut idea has legs
By Asia Unhedged
11/06/2015
ระหว่างการทำโรดโชว์ออกตระเวนพูดปราศรัยตามเมืองต่างๆ ในสหรัฐฯเวลานี้ แจ๊ก หม่า ประธานและผู้ก่อตั้ง “อาลีบาบา” เสนอให้ตัดลดภาษีนำเข้าซึ่งเก็บจากธุรกิจรายเล็กๆ ของอเมริกาที่ส่งสินค้าและบริการไปขายยังจีน เช่นเดียวกับที่ธุรกิจเล็กๆ ของจีนซึ่งขายสินค้าและบริการให้แก่สหรัฐฯก็ไม่ควรต้องเสียภาษี ทั้งนี้ถ้าหากยอดขายเหล่านี้อยู่ในระดับไม่ถึง 1 ล้าน ดอลลาร์
นี่ไม่ใช่สิ่งที่โลกตะวันตกเรียกร้องต้องการตั้งแต่ที่ทำ “สงครามฝิ่น” (Opium Wars) กับจีนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 หรอกหรือ?
แจ๊ก หม่า กำลังทำโรดโชว์ ออกตระเวนไปกล่าวปราศรัยตามเมืองต่างๆ ทั่วอเมริกา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบรรดาเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กๆ ว่า ประเทศจีนพร้อมแล้วที่จะซื้อสินค้าและบริการของพวกเขา และหนทางที่ดีที่สุดที่จะกระทำเช่นนั้นก็คือผ่านทาง อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Alibaba Group Holdings) ของหม่า ซึ่งเป็นเว็บไซต์อี-คอมเมอร์ซ ใหญ่ที่สุดในแดนมังกร
หม่า ผู้เป็นประธานของอาลีบาบา นำเอาสไตล์บ้านนอกๆ แต่สามารถครอบโลกของเขา ไปเสนอต่อพวกเจ้าของธุรกิจรายเล็กๆ ที่นครชิคาโก ในรายการซึ่งเจ้าภาพคือ เคน เชโนลต์ (Ken Chenault) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ อเมริกัน เอ็กซ์เพรสส์ (American Express) “(สร้าง) ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรม และนำมันเข้าไปยังประเทศจีน จีนในอีก 10 ปีข้างหน้าจะกลายเป็นประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลก” หม่ากล่าวเช่นนี้ ทั้งนี้ตามรายงานบนเว็บไซต์นิตยสาร “ฟอร์จูน” (ดูรายละเอียดได้ที่ http://fortune.com/2015/06/11/alibaba-jack-ma-china/)
“ควอร์ตซ์” (Quartz) สื่อสิ่งพิมพ์ออนไลน์ ตั้งคำถามขึ้นมาว่า หรือว่าหม่ากำลังอยู่ระหว่างการหาเสียงเพื่อลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกัน (ดูรายละเอียดได้ที่ http://qz.com/423526/is-jack-ma-running-for-us-president/) บางทีพวกเขาอาจจะไม่ถึงกับมีจินตนาการอันเลยเถิดเท่าใดนักหรอก เมื่อพิจารณาถึงวิธีที่เขากำลังพูดถึงนโยบายการจัดเก็บภาษีของอเมริกาแล้ว มันก็ละม้ายจริงๆ นั่นแหละว่า เขาน่าจะกำลังหาเสียงชิงตำแหน่ง ส.ส.สหรัฐฯอยู่
ทางด้านเว็บไซต์ของนิตยสารฟอร์บส์รายงานว่า หม่าแสดงความสนอกสนใจเป็นอย่างยิ่งในเรื่องการทำให้พวกผู้คุมกฎทั้งหลาย ลดภาษีนำเข้าให้แก่บรรดาธุรกิจขนาดเล็กๆ ที่กำลังขายสินค้าและบริการให้แก่จีน และในทำนองเดียวกัน ก็ให้มีการลดภาษีนำเข้าแก่ธุรกิจรายเล็กๆ ของจีนซึ่งกำลังขายสินค้าและบริการให้แก่อเมริกา “ถ้าหากธุรกิจรายเล็กๆ ของสหรัฐฯขายอะไรไปประเทศจีน โดยมียอดขายไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์แล้ว มันก็ไม่ควรที่จะต้องเสียภาษี” หม่า เสนอแนวความคิดของเขา “และถ้าธุรกิจของจีนขายให้สหรัฐฯโดยมียอดขายไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์ มันก็ไม่ควรที่จะต้องเสียภาษีเหมือนกัน” ความเห็นนี้แหละที่นำเราไปสู่คำถามซึ่งเอเชียอันเฮดจ์เสนอขึ้นในตอนเริ่มต้นข้อเขียนชิ้นนี้
เมื่อประมาณเกือบๆ 200 ปีที่แล้ว โลกตะวันตกยังต้องการขายของให้แก่ผู้บริโภคชาวจีนเหลือเกิน แต่เมื่อเกิดภาวะไม่สมดุลทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนอย่างที่ปรากฏอยู่ในเวลานี้ สหรัฐฯก็กำลังส่งเสียงลั่นเรียกร้องให้จีนเปิดตลาดภายในประเทศให้แก่อเมริกา ดังนั้นถ้าหากมีความเคลื่อนไหวในเรื่องการยกเลิกภาษีนำเข้าเช่นว่านี้แล้ว มันก็จะทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างกลายเป็นผู้ชนะไม่ใช่หรือ รัฐสภาสหรัฐฯควรต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจังกันบ้างนะ
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
Jack Ma’s import tax-cut idea has legs
By Asia Unhedged
11/06/2015
ระหว่างการทำโรดโชว์ออกตระเวนพูดปราศรัยตามเมืองต่างๆ ในสหรัฐฯเวลานี้ แจ๊ก หม่า ประธานและผู้ก่อตั้ง “อาลีบาบา” เสนอให้ตัดลดภาษีนำเข้าซึ่งเก็บจากธุรกิจรายเล็กๆ ของอเมริกาที่ส่งสินค้าและบริการไปขายยังจีน เช่นเดียวกับที่ธุรกิจเล็กๆ ของจีนซึ่งขายสินค้าและบริการให้แก่สหรัฐฯก็ไม่ควรต้องเสียภาษี ทั้งนี้ถ้าหากยอดขายเหล่านี้อยู่ในระดับไม่ถึง 1 ล้าน ดอลลาร์
นี่ไม่ใช่สิ่งที่โลกตะวันตกเรียกร้องต้องการตั้งแต่ที่ทำ “สงครามฝิ่น” (Opium Wars) กับจีนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 หรอกหรือ?
แจ๊ก หม่า กำลังทำโรดโชว์ ออกตระเวนไปกล่าวปราศรัยตามเมืองต่างๆ ทั่วอเมริกา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบรรดาเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กๆ ว่า ประเทศจีนพร้อมแล้วที่จะซื้อสินค้าและบริการของพวกเขา และหนทางที่ดีที่สุดที่จะกระทำเช่นนั้นก็คือผ่านทาง อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Alibaba Group Holdings) ของหม่า ซึ่งเป็นเว็บไซต์อี-คอมเมอร์ซ ใหญ่ที่สุดในแดนมังกร
หม่า ผู้เป็นประธานของอาลีบาบา นำเอาสไตล์บ้านนอกๆ แต่สามารถครอบโลกของเขา ไปเสนอต่อพวกเจ้าของธุรกิจรายเล็กๆ ที่นครชิคาโก ในรายการซึ่งเจ้าภาพคือ เคน เชโนลต์ (Ken Chenault) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ อเมริกัน เอ็กซ์เพรสส์ (American Express) “(สร้าง) ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรม และนำมันเข้าไปยังประเทศจีน จีนในอีก 10 ปีข้างหน้าจะกลายเป็นประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลก” หม่ากล่าวเช่นนี้ ทั้งนี้ตามรายงานบนเว็บไซต์นิตยสาร “ฟอร์จูน” (ดูรายละเอียดได้ที่ http://fortune.com/2015/06/11/alibaba-jack-ma-china/)
“ควอร์ตซ์” (Quartz) สื่อสิ่งพิมพ์ออนไลน์ ตั้งคำถามขึ้นมาว่า หรือว่าหม่ากำลังอยู่ระหว่างการหาเสียงเพื่อลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกัน (ดูรายละเอียดได้ที่ http://qz.com/423526/is-jack-ma-running-for-us-president/) บางทีพวกเขาอาจจะไม่ถึงกับมีจินตนาการอันเลยเถิดเท่าใดนักหรอก เมื่อพิจารณาถึงวิธีที่เขากำลังพูดถึงนโยบายการจัดเก็บภาษีของอเมริกาแล้ว มันก็ละม้ายจริงๆ นั่นแหละว่า เขาน่าจะกำลังหาเสียงชิงตำแหน่ง ส.ส.สหรัฐฯอยู่
ทางด้านเว็บไซต์ของนิตยสารฟอร์บส์รายงานว่า หม่าแสดงความสนอกสนใจเป็นอย่างยิ่งในเรื่องการทำให้พวกผู้คุมกฎทั้งหลาย ลดภาษีนำเข้าให้แก่บรรดาธุรกิจขนาดเล็กๆ ที่กำลังขายสินค้าและบริการให้แก่จีน และในทำนองเดียวกัน ก็ให้มีการลดภาษีนำเข้าแก่ธุรกิจรายเล็กๆ ของจีนซึ่งกำลังขายสินค้าและบริการให้แก่อเมริกา “ถ้าหากธุรกิจรายเล็กๆ ของสหรัฐฯขายอะไรไปประเทศจีน โดยมียอดขายไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์แล้ว มันก็ไม่ควรที่จะต้องเสียภาษี” หม่า เสนอแนวความคิดของเขา “และถ้าธุรกิจของจีนขายให้สหรัฐฯโดยมียอดขายไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์ มันก็ไม่ควรที่จะต้องเสียภาษีเหมือนกัน” ความเห็นนี้แหละที่นำเราไปสู่คำถามซึ่งเอเชียอันเฮดจ์เสนอขึ้นในตอนเริ่มต้นข้อเขียนชิ้นนี้
เมื่อประมาณเกือบๆ 200 ปีที่แล้ว โลกตะวันตกยังต้องการขายของให้แก่ผู้บริโภคชาวจีนเหลือเกิน แต่เมื่อเกิดภาวะไม่สมดุลทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนอย่างที่ปรากฏอยู่ในเวลานี้ สหรัฐฯก็กำลังส่งเสียงลั่นเรียกร้องให้จีนเปิดตลาดภายในประเทศให้แก่อเมริกา ดังนั้นถ้าหากมีความเคลื่อนไหวในเรื่องการยกเลิกภาษีนำเข้าเช่นว่านี้แล้ว มันก็จะทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างกลายเป็นผู้ชนะไม่ใช่หรือ รัฐสภาสหรัฐฯควรต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจังกันบ้างนะ
(จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)
