เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปรับลงเมื่อวันพฤหัสบดี (11 มิ.ย.) หลังทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดหมายว่าอุปสงค์ที่ดีดตัวขึ้นในระยะหลังใกล้ถึงจุดสิ้นสุด ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบและทองคำขยับลง จากข้อมูลค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 66 เซ็นต์ ปิดที่ 60.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 59 เซ็นต์ ปิดที่ 65.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือน อีไอเอปรับเพิ่มอุปสงค์โลกปี 2015 จากการประมาณการณ์คราวก่อน 300,000 บาร์เรล เป็น 91 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังพบอุปสงค์เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรก
อย่างไรก็ตาม ไออีเอแสดงความเคลือบแคลงต่อเหตุผลบางประการของการฟื้นตัวของอุปสงค์ อาทิ ฤดูหนาวที่เย็นยะเยือกผิดปกติในยุโรปช่วงต้นปี 2015 ซึ่งกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันทำความร้อน ยิ่งไปกว่านั้นในรายงานยังพบเห็นสัญญาณยืดเยื้อของภาวะอุปทานล้นตลาด จากกำลังผลิตอันสูงลิ่วของสหรัฐฯและเหล่าสมาชิกหลักๆของโอเปก
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (11 มิ.ย.) ปิดในแดนบวก หลังข้อมูลค้าปลีกอันแข็งแกร่งของอเมริกา บ่งชี้ว่าผู้บริโภคแดนลุงแซมกำลังมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ตามหลังภาวะซบเซาในไตรมาสแรก
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 38.97 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,039.37 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.66 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,108.86 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 5.82 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,082.51 จุด
ข้อมูลของกระทรงพาณิชย์สหรัฐฯ พบว่า ยอดค้าปลีกในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 ดีกว่าที่เหล่านักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นราวๆ ร้อยละ 1.1
ตัวเลขค้าปลีกอันแข็งแกร่งดังกล่าว ผลักให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่ปัจจัยนี้เองที่ฉุดให้ทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี (11 มิ.ย.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,180.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์